ชมรมสถานประกอบการกับเป้าหมายนำเวียดนามกลายเป็นประเทศแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ

Thu Hằng /VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลเวียดนามได้มีนโยบายสำคัญๆเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุกิจ มุ่งสู่เป้าหมายมีสถานประกอบการสตาร์ทอัพ ๑ ล้านแห่งภายในปี ๒๐๒๐ ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก สิ่งนี้จะสร้างความต้องการที่เข้มงวดเกี่ยวกับความสามารถในการมีความคิดสร้างสรรค์และระดับเทคโนโลยีต่อนักธุรกิจสตาร์ทอัพ 
(VOVworld) – เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลเวียดนามได้มีนโยบายสำคัญๆเพื่อให้การช่วยเหลือสถานประกอบการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุกิจ มุ่งสู่เป้าหมายมีสถานประกอบการสตาร์ทอัพ ๑ ล้านแห่งภายในปี ๒๐๒๐ ในสภาวการณ์ที่เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก สิ่งนี้จะสร้างความต้องการที่เข้มงวดเกี่ยวกับความสามารถในการมีความคิดสร้างสรรค์และระดับเทคโนโลยีต่อนักธุรกิจสตาร์ทอัพ บรรดาผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้แสดงความเห็นว่า เพื่อประสบความสำเร็จในช่วงเริ่มต้น หน้าที่ที่วางไว้ต่อสถานประกอบการคือต้องเปลี่ยนแปลงใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อปฏิบัติเป้าหมายนำเวียดนามกลายเป็นประเทศแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ

ชมรมสถานประกอบการกับเป้าหมายนำเวียดนามกลายเป็นประเทศแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ - ảnh 1
นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการรณรงค์เยาวชนสร้างฐานะใหม่

ใน ๒ ปีมานี้ ขบวนการสตาร์ทอัพได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง สถานประกอบการสตาร์ทอัพมักจะประกอบธุรกิจในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟแวร์และการบริการ โดยที่กรุงฮานอย มีสถานประกอบการกว่า ๒ แสนแห่ง โดยร้อยละ ๓๐ เป็นสถานประกอบการสตาร์ทอัพ ฮานอยกำลังเสนอหลายมาตรการเพื่อช่วยเหลือสถานประกอบการในการเริ่มต้นธุรกิจและพัฒนา เช่นการให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนและช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน เพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลก สถานประกอบการสตาร์ทอัพต้องมีก้าวกระโดดในการผลิตผลิตภัณฑ์ ลงทุนพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีที่ทันสมัย คล่องตัว มีความคิดสร้างสรรค์ในการประกอบธุรกิจ ปัจจุบัน สมาคมสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของกรุงฮานอยได้ก่อตั้งกองทุนสตาร์ทอัพเพื่อให้การช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่สถานประกอบการ นอกจากนั้น สถานประกอบการใหญ่ๆของฮานอยยังช่วยเหลือให้สถานประกอบการสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการของสถานประกอบการเพื่อพัฒนา นาย หมากก๊วกแอง อุปนายกสมาคมฯและเลขาธิการสมาคมสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมของกรุงฮานอยได้เผยว่า“ต้องมีสถานประกอบการสตาร์ทอัพ แต่พวกเราต้องคัดเลือก เลือกแขนงอาชีพที่ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ มีก้าวกระโดดและผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องได้รับการรองรับในตลาดทันที เจาะตลาดขนาดเล็ก ไม่แข่งขันกับคู่แข็งใหญ่ๆ พวกเราหวังว่า สถานประกอบการสตาร์ทอัพจะเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์และมีความคล่องตัวในการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก การค้าและการลงทุน เน้นประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่ๆ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ เน้นให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงเพื่อเจาะตลาดใหญ่ๆ”
ควบคู่กันนั้น รัฐบาลเวียดนามได้ประกาศใช้นโยบายให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่สถานประกอบการที่อยากสตาร์ทอัพ โดยสั่งให้ธนาคารชาติและธนาคารทั่วประเทศแก้ไขอุปสรรค์ให้แก่สถานประกอบการต่อไปและให้การช่วยเหลือเพื่อพัฒนา ซึ่งเพื่อให้การช่วยเหลือเงินทุนแก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพ กองทุนสนับสนุนเงินทุนหลายองค์กรได้รับการก่อตั้ง เช่นกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยง เป็นต้น ซึ่งด้วยมีความประสงค์ว่าจะทำให้เวียดนามกลายเป็นประเทศแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ เหมือนอิสราเอล กลุ่มบริษัทเอฟพีทีกำลังร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับกองทุนและสถาบันอบรมนานาชาติเพื่อสร้างบรรยากาศสตาร์ทอัพจะบรรลุเป้าหมายมีบริษัทเทคโนโลยี ๕ พันแห่งภายในปี ๒๐๒๐ นาย เจิ่นหวุยดึ๊ก ผู้อำนวยการกองทุนการลงทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงเอฟพีทีให้คำมั่นที่จะเดินพร้อมกับสถานประกอบการสตาร์ทอัพในระยะยาว โดยนอกจากสถานประกอบการจะได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว ก็ยังมีโอกาสร่วมงานกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์สูงทั้งภายในและนอกเอฟทีพี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายคือผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตลาดต้องการอย่างแท้จริง ทั้งในเวียดนามและตลาดในภูมิภาคและโลก“เพื่อให้การช่วยเหลือธุรกิจสตาร์ทอัพในเวียดนาม พวกเราได้ประสานกับกลุ่มบริษัท Hanwa ของสาธารณรัฐเกาหลี กองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยง Dragon Capital และบริษัทหลักทรัพย์บีไอดีวีได้จัดตั้งกองทุนใหม่คือกองทุนผลักดันสตาร์ทอัพ ความคิดสร้างสรรค์เวียดนามเพื่อช่วยให้คนเวียดนามรุ่นใหม่นอกจากมีเงินทุนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพแล้วก็ยังมีเงื่อนไขเพื่อเข้าถึงตลาดระหว่างประเทศ ได้รับการฝึกอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินลงทุนที่มากขึ้น”

ชมรมสถานประกอบการกับเป้าหมายนำเวียดนามกลายเป็นประเทศแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ - ảnh 2
ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพส่วนใหญ่เป็นเยาวชน

ธุรกิจสตาร์ทอัพไม่เพียงแต่คือการจัดตั้งสถานประกอบการใหม่เท่านั้น หากยังเป็นการปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ การบริหารและเทคโนโลยี สตาร์ทอัพคือการมีแนวคิดใหม่และพัฒนาใหม่ ในสภาวการณ์แห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก สถานประกอบการเวียดนามต้องพัฒนาเศรษฐกิจโดยอาศัยเทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงใหม่ในเชิงสร้างสรรค์และส่งเสริมเศรษฐกิจเชิงปัญญา สถานประกอบการ รวมทั้งสถานประกอบการสตาร์ทอัพต้องเลือกสาขาธุรกิจที่เหมาะสมเพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ปฏิบัติกระบวนการเชื่อมโยงสถานประกอบการกับเป้าหมายนำเวียดนามกลายเป็นประเทศแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า“เวียดนามกำลังเป็นเศรษฐกิจและประเทศที่มีข้อคิดริเริ่มใหม่พร้อมจิตใจแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพที่เข้มแข็งและน่ายินดีของรัฐบาลในเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะการออกมติ ๓๕ โดยตั้งเป้าหมายที่สำคัญคือมีสถานประกอบการ ๑ ล้านแห่งภายในปี ๒๐๒๐ ดังนั้น รัฐบาลได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ สร้างสรรค์รัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์และรับใช้ประชาชนและมุ่งมั่นปฏิรูป ซึ่งกำลังสร้างความไว้วางใจให้แก่ชมรมสถานประกอบการและนักธุรกิจ”
เพื่อผลักดันจิตใจแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ ความพยายามของสถานประกอบการ การสร้างบรรยากาศการประกอบธุรกิจที่สะดวกเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะจะทำให้สถานประกอบการเน้นเปลี่ยนแปลงใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อประสบความสำเร็จ.

Komentar