นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรีและนาย แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย |
ในกรอบการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศในระหว่างวันที่ 5 -11 มีนาคม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งได้เข้าร่วมกว่า 50 กิจกรรม
มีส่วนร่วมที่แข็งขันต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย
ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับสูงพิเศษอาเซียน-ออสเตรเลีย เวียดนามได้เข้าร่วมกระบวนการ เตรียมความพร้อม การจัดทำระเบียบวาระการประชุมและการเจรจาเกี่ยวกับเอกสารอย่างเข้มแข็งในเชิงรุก เข้าร่วมและมีส่วนร่วมที่สำคัญต่อความสำเร็จของการประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอ “3 ก้าวกระโดด 3 ด้านที่ต้องกระชับและ3 ประเด็นที่ร่วมปฏิบัติ”ในความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย โดยได้รับการชื่นชมจากผู้นำประเทศต่างๆและหลายเนื้อหาถูกระบุในเอกสาร
การเข้าร่วมของเวียดนามในการประชุมครั้งนี้ได้มีส่วนร่วมเชิดชูบทบาทของเวียดนามในความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้พบปะกับผู้นำประเทศอาเซียน ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมและเลขาธิการอาเซียน ซึ่งหุ้นส่วนต่างๆได้ชื่นชมบทบาทและสถานะของเวียดนามและมีความประสงค์ที่จะกระชับความสัมพันธ์กับเวียดนามในทุกด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษาและฝึกอบรม การท่องเที่ยวและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน
นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ Christopher Luxon และนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน |
ยกระดับความสัมพันธ์กับออสเตรเลีย เปิดโอกาสความร่วมมือในด้านใหม่กับนิวซีแลนด์
หลังจากที่เข้าร่วมการประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง พร้อมภริยาได้เดินทางไปเยือนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 7 -11 มีนาคม โดยทั้งสองประเทศได้จัดพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติตามแบบรัฐพิธีโดยเฉพาะ รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้จัดพิธีต้อนรับตามแบบของชาวเมารี
จุดเด่นในกรอบการเยือนประเทศออสเตรเลียคือการที่นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรีและนาย แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในความสัมพันธ์การต่างประเทศของเวียดนาม ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อปฏิบัติ 6 แนวทางความร่วมมือใหญ่ในเวลาที่จะถึงในทุกด้าน นาย Layton Pike ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันนโยบายออสเตรเลีย-เวียดนามได้ประเมินกรอบความร่วมมือใหม่นี้ว่า
“วันนี้เป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียเมื่อทั้งสองประเทศยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ซึ่งกรอบความสัมพันธ์ใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะระหว่างผู้นำ อำนวยความสะดวกให้แก่เวียดนามและออสเตรเลียผลักดันการสนทนาและการแลกเปลี่ยนทุกระดับในหลายด้าน”
ส่วนนาย Andrew Goledzinowski เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำเวียดนามได้แสดงความประทับจต่อบทปราศรัยของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-ออสเตรเลีย โดยเห็นว่า
“นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นคนที่อบอุ่น จริงใจและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่มีโอกาสพบปะกับท่าน ในกรอบการเยือนนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มีกิจกรรมต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพและสงวนเวลาเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นที่ได้รับความสนใจของเวียดนาม สามารยืนยันได้ว่า การเยือนนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจและความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างสองประเทศ หวังว่า หลังการเยือนนี้ทั้งสองประเทศจะมีโอกาสมากมายเพื่อเชื่อมโยงกัน”
ส่วนที่ประเทศนิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มีการเจรจากับนายกรัฐมนตรี Christopher Luxon และผู้นำของนิวซีแลนด์ นอกจากด้านความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว การเยือนครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า
“บนเจตนารมณ์แห่งการสร้างสรรค์และความร่วมมือ พวกเราได้หารือเกี่ยวกับด้านความร่วมมือต่างๆเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้เข้มแข็งมากขึ้นในเวลาที่จะถึงและมุ่งสู่การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ผมขอย้ำถึงความมีเสถียรภาพและการเสริมสร้าง การผลักดันและการขยาย การผลักดันและการสร้างก้าวกระโดด”
ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะประสานงานในการผลักดันการแลกเปลี่ยนทางการค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้และวิจัยมาตรการเพื่อเพิ่มการลงทุนระหว่างสองประเทศขึ้นเป็น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ให้คำมั่นที่จะร่วมมือ มีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค
การเข้าร่วมการประชุมระดับสูงพิเศษอาเซียน-ออสเตรเลียและการเยือนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ได้ประสบความสำเร็จในทุกด้าน สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่.