การทูตเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและเป้าหมาผสมผสานเข้ากับโลก

Chia sẻ
(VOVworld) –  ในระยะปัจจุบัน การผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกที่นับวันยิ่งกว้างลึกมากขึ้นทำให้ เวียดนามได้รับโอกาสใหญ่ๆและก็ประสบความท้าทายไม่น้อย ดังนั้น การปกป้องผลประโยชน์ของชาติแต่ยังคงสามารถผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้เป็น หน้าที่ของหน่วยงานการทูตซึ่งเป็นเนื้อหาที่สำคัญของการประชุมการทูตครั้ง ที่๒๘ ที่ได้มีขึ้น ณ กรุงฮานอย ในสัปดาห์นี้

(VOVworld) –  ในระยะปัจจุบัน การผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกที่นับวันยิ่งกว้างลึกมากขึ้นทำให้เวียดนามได้รับโอกาสใหญ่ๆและก็ประสบความท้าทายไม่น้อย ดังนั้น การปกป้องผลประโยชน์ของชาติแต่ยังคงสามารถผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานการทูตซึ่งเป็นเนื้อหาที่สำคัญของการประชุมการทูตครั้งที่๒๘ ที่ได้มีขึ้น ณ กรุงฮานอย ในสัปดาห์นี้

การทูตเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและเป้าหมาผสมผสานเข้ากับโลก - ảnh 1
การประชุมการทูตครั้งที่๒๘(Photo:dantri.com )

ทุกๆ๒ปี ในช่วงปลายปี หัวหน้าสำนักงานตัวแทนการทูตเวียดนามประจำต่างประเทศจะเดินทางกลับฮานอยเพื่อเข้าร่วมการประชุมของหน่วยงานการทูต  การประชุมปีนี้เป็นการประชุมครั้งที่๒๘ที่ดำเนินไปเป็นเวลา๖วันที่ถูกจัดขึ้นภายหลัง๑๒ปีที่กรมการเมืองพรรคประกาศใช้มติเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ที่ประชุมครั้งนี้เน้นประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ภายในประเทศและระหว่างประเทศเพื่อวางหน้าที่ที่เป็นรูปธรรมเพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกต่อไปเพื่อเป้าหมายอันสูงสุดคือนำผลประโยชน์มาให้แก่ประเทศ

การทูตช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างเข้มแข็ง

            ใน๒ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การประชุมการทูตครั้งที่๒๗ บทบาทของการทูตในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมีก้าวพัฒนาอย่างชัดเจนโดยได้ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในระยะใหม่ พร้อมทั้งทำการศึกษาวิจัยในเชิงรุก พยากรณ์แนวโน้มพัฒนาใหญ่ๆและประสบการณ์ของประเทศต่างๆเพื่อให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลในการบริหาร สร้างเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

            นอกจากการอำนวยความสะดวกให้แก่กระบวนการรณรงค์รับรองระบบเศรษฐกิจเชิงตลาด แสวงหาแหล่งเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือODA  ดึงดูดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDI กิจกรรมการทูตยังต่อสู้กับพฤติกรรมคุ้มครอง และเลือกปฏิบัติในความสัมพันธ์ทางการค้า จากสถานการณ์ที่เป็นจริงในตลาดสหรัฐ นายเหงวียนก๊วกเกื่อง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐได้กล่าวว่า“นี่คือความแตกต่างที่พวกเราต้องทำการต่อสู้ต่อไปด้วยมาตรการต่างๆบนพื้นฐานของกฎหมายของสหรัฐและเวียดนามและผ่านกลไกอื่นๆ เช่นองค์การการค้าโลก  ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางการค้ายิ่งพัฒนาก็ยิ่งเกิดการพิพาททางการค้า ดังนั้น สำนักงานที่เกี่ยวข้องภายในประเทศและสำนักงานการทูตเวียดนามประจำสหรัฐจะช่วยเหลือสถานประกอบการเวียดนามต่อต้านมาตรการกำแพงภาษีศุลกากร และส่งเสริมมาตรการปลอดภาษีต่อไป”

กิจกรรมการทูตยังมีส่วนร่วมผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีที่สำคัญๆเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่ผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ด้านการเมืองและเศรษฐกิจให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนในระยะยาวของเวียดนามกับศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเมืองชั้นนำทุกแห่งของโลก นายฝ่ามแซงโจว์ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหภาพยุโรปหรือEUกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญเพื่อปฏิบัติหน้าที่การทูตเศรษฐกิจให้ลุล่วงไปด้วยดีคือ ต้องพยากรณ์สถานการณ์ประเทศที่ตนประจำอย่างแม่นยำเพื่อเป็นที่ปรึกษาให้แก่พรรค และรัฐเพื่อวางนโยบายต่างประเทศที่สำคัญๆ “EU กำลังปฏิบัติแนวทางต่างประเทศอย่างเข้มแข็งและสิ่งที่น่าสนใจคือมีความสนใจต่อแถบเอเชีย โดยเฉพาะ อาเซียน รวมทั้ง เวียดนาม ในสภาวการณ์เช่นนี้ พวกเราได้ผลักดันความสัมพันธ์ในทุกด้านอย่างเข้มแข็ง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้ลงนามในข้อตกลงและกำลังให้สัตยาบันข้อตกลงหุ้นส่วนความร่วมมือในทุกด้านซึ่งเป็นพื้นฐานทางนิตินัยในทุกด้านให้แก่ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับEUในเวลาข้างหน้า พวกเรากำลังเจรจากับEUเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTA และหวังว่า จะเสร็จสิ้นการเจรจาในปลายปี๒๐๑๔”

จากความสำเร็จในตลาดอินโดนีเซีย นายเหงวียนซวนถุ่ย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอินโดนีเซียได้ยืนยันว่า การทูตต้องปฏิบัติหน้าที่เปิดทาง มีการประเมิน และมีการพยากรณ์เกี่ยวกับการปรับปรุงนโยบายของประเทศที่ตนประจำ ผลกระทบต่อบรรยากาศความมั่นคงและการพัฒนาของประเทศเพื่อให้คำปรึกษาอย่างทันการณ์ แม้จะเผชิญกับความลำบากของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกแต่มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียยังคงอยู่ที่๔พัน๗ร้อยล้านเหรียญสหรัฐต่อปีและสิ่งที่สำคัญคือทั้งสองฝ่ายได้กำหนดกรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์“อินโดนีเซียกำลังเป็นดาวเด่นเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อินโดนีเซียได้มีการปรับปรุงนโยบายมหภาคแต่ยังคงส่งเสริมบทบาทบนเวทีโลกซึ่งเป็นประสบการณ์ที่พวกเราสามารถเรียนรู้และพวกเราต้องศึกษา เข้าใจการเปลี่ยนแปลงต่างๆเพื่อให้คำปรึกษาแก่พรรคและรัฐเพื่อแสวงหาวิธีการขยายความร่วมมือ ”

จนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้ส่งออกสินค้าไปยัง๒๐๐ประเทศและดินแดน ปี๒๐๑๓ แทบทุกตลาดต่างบรรลุมูลค่าการส่งออกตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในผลสำเร็จนี้มีส่วนร่วมไม่น้อยของสำนักงานตัวแทนการทูตเวียดนามประจำต่างประเทศ

ร่วมแรงร่วมใจเพื่อเป้าหมายผสมผสานเข้ากับโลก

การประชุมของหน่วยงานการทูตครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งโดยได้ดำเนินไปในช่วงที่ประเทศมีการเปลี่ยนแปลงมากมายและอีก๗ปี เวียดนามจะบรรลุเป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ความคิดเห็นของสำนักงานตัวแทนเวียดนามประจำต่างประเทศจะมีส่วนร่วมปฏิบัติแนวทางต่างประเทศ และนโยบายผสมผสานเข้ากับโลกในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำผลงานมาให้แก่ประเทศมากยิ่งขึ้น./.

Huyền-VOV5

Komentar