(VOVworld) – ปี๒๐๑๓กำลังใกล้จะสิ้นสุดลงโดยมีกิจกรรมการทูตที่หลากหลายและคึกคัก เมื่อหวนมองดูในตลอด๑ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า กิจกรรมต่างประเทศได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างลึกและนำมาซึ่งผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมต่างๆซึ่งไม่เพียงแต่มีส่วนร่วมสร้างบรรยากาศระหว่างประเทศที่สะดวกให้แก่การพัฒนาประเทศและการแสวงหาการสนับสนุนให้แก่ภารกิจการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยเท่านั้นหากยังช่วยปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของชาติ และพิทักษ์รักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอีกด้วย
จากการปฏิบัติแนวทางต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ในเวลาที่ผ่านมา งานด้านการต่างประเทศได้ประสบผลงานที่โดดเด่น โดยเฉพาะ ปี๒๐๑๓ งานด้านต่างประเทศได้มีนิมิตรหมายที่โดดเด่นโดยมีผลงานในทุกด้านในทั้ง๓เป้าหมายคือพัฒนา ความมั่นคงและสถานะ ความสัมพันธ์กับต่างประเทศได้รับการผลักดันในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคง การป้องกันประเทศและวัฒนธรรมต่อทุกหุ้นส่วนในทุกทวีปทั้งความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
กำหนดกรอบความสัมพันธ์กับทุกหุ้นส่วนสำคัญ
ปี๒๐๑๓ จากการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับอิตาลี่ สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย และฝรั่งเศส เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ๑๓ประเทศ และความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับออสตรเลียและสหรัฐซึ่งทำให้เวียดนามมีความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับ๑๑ประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือ ภายหลัง๖๗ปีนับตั้งแต่ประธานโฮจิมินห์ส่งสาส์นถึงประธานาธิบดีสหรัฐHarry S.Trumanโดยแสดงความประสงค์ที่จะสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมมืออย่างสมบูรณ์ ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหรัฐได้รับการยกระดับเป็นหุ้นส่วนทุกด้านเป็นครั้งแรกซึ่งได้เปิดยุคใหม่แห่งความร่วมมือทวิภาคีที่มีความไว้วางใจทางการเมืองในระดับสูง นายเหงวียก๊วกเกื่อง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐอเมริกากล่าวว่า“จากการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านเวียดนาม–สหรัฐโดยมีเนื้อหาร่วมมือใน๙ด้านซึ่งนับเป็นครั้งแรกภายหลังหลายปี สามารถสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และหุ้นส่วนในทุกด้านกับทุกหุ้นส่วนที่สำคัญที่สุดในโลกในขั้นพื้นฐานสำเร็จ รวมทั้ง ๕ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และประเทศแกนนำในอาเซียนที่มีส่วนร่วมยกระดับสถานะและบทบาทของเวียดนามให้สูงเด่นเป็นที่ยอมรับบนเวทีโลก สร้างบรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนา”
|
ประเทศต่างๆอวยพรเวียดนามที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
ด้วยเสียงสนับสนุนข้างมาก (Photo: vietnam+) |
ความสัมพันธ์ทางการเมืองและการทูตที่ดีงามได้อำนวยความสะดวกให้แก่การดึงดูดเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDI ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกยังคงถูกผลกระทบจากวิกฤติการเงินในทั่วโลก เงินทุนFDI ของเวียดนามในปี๒๐๑๓อยู่ที่กว่า๒หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ๖๕ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ควบคู่กันนั้น การรณรงค์ทางการเมืองและการทูตก็ได้อำนวยความสะดวกให้แก่กระบวนการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีที่สำคัญๆและการรับรองระบบเศรษฐกิจเชิงตลาด ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า“พวกเรารณรงค์ได้อีก๑๔ประเทศทำให้จำนวนประเทศที่รับรองระบบเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามอยู่ที่๔๓ประเทศ รวมทั้ง๘ประเทศของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำหรือจี๒๐ ปัจจุบันพวกเรากำลังเจรจราข้อตกลงการค้าเสรี๖ฉบับกับบรรดาหุ้นส่วนสำคัญทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมทั้งบรรดาเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด ควบคู่กับความร่วมมือ พวกเรายังต่อสู้กับพฤติกรรมคุ้มครองและเลือกปฏิบัติในความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างทันการณ์ซึ่งมีส่วนร่วมปกป้องสินค้าส่งออกสำคัญหลายชนิดในกรณีฟ้องร้องต่อต้านการขายทุ่มตลาดและอุปถัมภ์การส่งออก”
ปกป้องสิทธิผลประโยชน์ของชาติและยกระดับสถานะของประเทศให้สูงเด่นบนเวทีโลก
จากแนวทางและมาตรการที่เหมาะสม บนพื้นฐานของเจตนาดี เจตนารมณ์แห่งความร่วมมือและปฏิบัติตามหลักการต่างๆของกฎหมายสากล งานด้านการทูตปี๒๐๑๓ได้ส่งเสริมพลังที่เข้มแข็งในความอ่อนโยน มีส่วนร่วมพิทักษ์รักษาอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน จำนวนกรณีรุนแรงในทะเลได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ การแก้ไขปัญหาทะเลตะวันออกไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆ
ปี๒๐๑๓ยังเป็นปีที่เวียดนามประสบความสำเร็จในการยกระดับสถานะของตนบนเวทีโลก การที่เวียดนามตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้ว่าการสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศหรือIAEA ได้รับเลือกเข้าเป็นกรรมการคณะกรรมการร่วมรัฐบาลของอนุสัญญาปี๑๙๗๒เกี่ยวกับมรดกโลกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือUNESCO โดยเฉพาะ เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติด้วยเสียงสนับสนุนข้างมาก ได้สร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่แข็งขัน มีความรับผิดชอบต่อปัญหาต่างๆที่ได้รับความสนใจจากประชาคมระหว่างประเทศ นายเลหว่ายจูงเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหประชาชาติกล่าวว่า“สหประชาชาติเห็นว่า เวียดนามมีทัศนะที่ดีในหลายปัญหาและเป็นหุ้นส่วนที่อาจร่วมมือเป็นอย่างดี ปัญหาระหว่างประเทศใหญ่ๆ เช่น การไม่เผยแพ่อาวุธที่มีอนุภาพการทำลายล้างสูง การต่อต้านการก่อการร้าย การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การปกป้องความเสมอภาคทางเพศ ปกป้องสิทธิของเด็ก สิทธิของผู้ด้อยโอกาส เวียดนามต่างมีทัศนะที่ดี ดังนั้น สหประชาชาติเห็นว่า เวียดนามได้แสดงท่าทีที่ดี มีส่วนร่วมเชิงสร้างสรรค์”
จากการส่งเสริมความสำเร็จด้านการทูตของปี๒๐๑๓ ในปี๒๐๑๔ เวียดนามจะมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะ มีความคิดริเริ่มในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคตามแนวทาง“เป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ”ต่อไป ผลงานด้านการต่างประเทศในปี๒๐๑๓เป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อให้เวียดนสมปฏิบัติหน้าที่ยุทธศาสตร์สองประการคือ สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในเวลาข้างหน้าให้เป็นผลสำเร็จ./.
Ánh Huyền-VOV5