เวียดนามไม่เพียงแต่ทำการต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์เท่านั้น หากยังต่อสู้เพื่อปกป้องเสถียรภาพในทะเลตะวันออกอีกด้วย

Chia sẻ
(VOVWORLD) - ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศอินโดนีเซียรายงานว่า ในหลายวันมานี้ การที่จีนส่งเรือสำรวจไหหยาง 8 รุกล้ำเข้ามาในเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของเวียดนามในเขตทะเลตะวันออกได้ดึงดูดความสนใจของนักวิชาการในภูมิภาคและโลก รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการอินโดนีเซีย
เวียดนามไม่เพียงแต่ทำการต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์เท่านั้น หากยังต่อสู้เพื่อปกป้องเสถียรภาพในทะเลตะวันออกอีกด้วย - ảnh 1 เวียดนามยืนหยัดแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธี(anninhthudo.vn)

ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศอินโดนีเซีย นาย Gilang Hambara ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสังกัดสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศอินโดนีเซียหรือ CSIS ได้ให้ข้อสังเกตว่า“จากการเป็นประเทศที่มีอธิปไตย เวียดนามมีสิทธิ์ประณามจีนที่ละเมิดอธิปไตยของเวียดนาม โดยการที่จีนรุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของเวียดนามคือปฏิบัติการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย”

นาย Gilang ได้เผยต่อไปว่า ปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวของจีนเมื่อเร็วๆนี้ เช่น การทำลายและจมเรือประมงของฟิลิปปินส์ หรือการส่งเรือสำรวจรุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลของเวียดนาม ได้แสดงให้เห็นว่า จีนได้เพิกเฉยต่อกฎหมายสากล ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อความมีเสถียรภาพในทะเลตะวันออก“ในหลายปีมานี้ จีนได้ละเมิดข้อกำหนดต่างๆของอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 จนทำให้เมื่อปี 2013 ฟิลิปปินส์ต้องฟ้องร้องจีนต่อศาลอนุญาโตตุลาการ แต่จีนได้ปฏิเสธคำวินิจฉัยของศาลเกี่ยวกับปฏิบัติการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ก่อสร้างเกาะเทียม ทำลายสิ่งแวดล้อมและคำเรียกร้องเกี่ยวกับเส้นประ 9 เส้น ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่า จีนไม่ได้ปฏิบัติตามทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 และคำวินิจฉัยของศาลอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับคดีดังกล่าวอย่างสมบูรณ์”

นาย Gilang ได้เผยว่า การบรรลุร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะมีกิจกรรมการค้าอย่างต่อเนื่องในทะเลตะวันออก ดังนั้น ประชาคมระหว่างประเทศและประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งอินโดนีเซียต้องรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงในทะเลตะวันออก.

เฮืองจ่า

Komentar