บรรดาผู้แทนเข้าร่วมนิทรรศการในกรอบฟอรั่ม |
ฟอรั่มนี้มีหัวข้อคือ "ฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมอย่างยั่งยืนในช่วงหลังโควิด-19 และเร่งผลักดันการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในยุคดิจิทัล"
ในการกล่าวปราศรัยในฟอรั่ม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า การปรับตัวและการพัฒนาของแต่ละประเทศจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในยุคดิจิทัลและโลกาภิวัตน์ในปัจจุบันเป็นปัญหาใหญ่ เร่งด่วนและยาวนาน โดยเฉพาะผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 นั้นมีความลึกซึ้งมากขึ้น นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งเผยว่า รัฐบาลกำลังเน้นปรับปรุงโครงการแบบบูรณาการเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 และโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมให้มีความสมบูรณ์ เวียดนามได้เลือกวิธีการเข้าถึงของประชาชนในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเวลาที่จะมาถึง เวียดนามจะปฏิบัติแนวทางปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัว ควบคุมโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ด้านสาธารณสุข การส่งเสริมระบบสาธารณสุขในท้องถิ่น สาธารณสุขป้องกัน ค้ำประกันการมีวัคซีนและยารักษาโรคอย่างเพียงพอ แก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิต ประกอบธุรกิจเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการเป็นอย่างดี สร้างก้าวกระโดดในการจัดทำระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานเชิงยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล
“ต้องส่งเสริมบทบาทของมนุษย์ ถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เป็นเป้าหมายและพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนา พวกเราไม่ยอมสละสวัสดิการสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อแลกกับการพัฒนา รักษาเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม ผลักดันการรักษาความมั่นคงกลาโหม ยกระดับประสิทธิภาพงานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก สร้างบรรยากาศที่สะดวกเพื่อพัฒนาประเทศ”
ท่านนายกรัฐมนตรีได้เผยว่า แม้ในกระบวนการฟื้นฟูและพัฒนา ปัจจัยภายในเป็นพื้นฐาน ยุทธศาสตร์ในระยะยาวและเป็นปัจจัยชี้ขาด แต่แหล่งพลังจากภายนอกก็มีความสำคัญและสร้างก้าวกระโดด ปัจจัยภายในประกอบด้วยสามเสาหลักคือมนุษย์ ธรรมชาติและเกียรติประวัติแห่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ด้วยจิตใจแห่งการพึ่งพาตนเอง ความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของประชาชาติ ส่วนปัจจัยภายนอกประกอบด้วยเทคโนโลยี เงินทุนและทักษะความสามารถที่มีธรรมาภิบาลและการฝึกอบรมแหล่งบุคลากร.