รายงานดังกล่าวได้ให้ข้อสังเกตว่า การฟื้นฟูเศรษฐกิจอาจดำเนินไปอย่างเข้มแข็งในไตรสมาสที่สองเมื่อความต้องการภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยวจะได้รับการฟื้นฟู แหล่งเงินทุนเอฟดีไอที่ไหลเข้ามาในเวียดนามเพิ่มขึ้นในปีนี้และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป โดยเฉพาะในภาคการผลิต น้ำมันและการผลิตไฟฟ้า เป็นต้น
ส่วนนาย ทิม ลีฬหะพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจที่ดูแลไทยและเวียดนามของธนาคาร Standard Chartered ได้เผยว่า บรรดานักลงทุนต่างชาติจะเป็นพลังขับเคลื่อนหลักเพื่อช่วยให้เวียดนามมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานโลก บรรดาสถานประกอบการเทคโนโลยีรายใหญ่ได้ย้ายหรือมีแผนการย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนามเพื่อเพิ่มความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทาน เวียดนามยังเป็นศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาคในด้านอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปและรองเท้า
ธนาคาร Standard Charteredได้พยากรณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามจะอยู่ที่ร้อยละ 4.2 ในปี 2022 และร้อยละ 5.5 ในปี 2023 .