ภาพการเสวนา

ในการกล่าวปราศรัยในการเสวนาภายใต้หัวข้อ “พึ่งพาตนเอง สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมและพัฒนาในยุคแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”ที่จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนามและมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์สังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รองศ.ดร. หวูมิงห์เคือง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยนโยบายภาครัฐ ลีกวนยู สังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ได้แสดงความคิดเห็นว่า ในขณะที่โลกมีความผันผวน การพึ่งพาตนเองนับวันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้เวียดนามเข้มแข็งอย่างข้ามขั้นเพื่อสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ประสบการณ์การพึ่งพาตนเองจากประเทศต่างๆ เช่น สาธารณรัฐเกาหลีและสิงคโปร์จะช่วยให้เวียดนามเรียนรู้และถอดประสบการณ์เพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนาของประเทศ “เพื่อสามารถพึ่งพาตนเองและเป็นฝ่ายรุก ก่อนอื่น ประชาชาติของเราต้องมีความสามัคคีในเรื่องความมุ่งมั่น สองคือ ต้องยกระดับความสามารถและสร้างคุณค่าในสังคม โดยเฉพาะในด้านกลไก มนุษย์ สถานประกอบการและวัฒนธรรม การสร้างคุณค่าใหม่ในยุคใหม่เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะรูปแบบเก่าไม่สามารถสร้างมูลค่าใหม่ได้แล้ว”

ส่วนนาย เหงียนบ๊าหุ่ง ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเกี่ยวกับความร่วมมือและการผสมผสานในภูมิภาคของธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบีได้แสดงความคิดเห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้สร้างปัญหาให้บรรดาประเทศที่กำลังพัฒนาเหมือนเวียดนามต้องแก้ไข รวมทั้งปัญหาสวัสดิการสังคมและผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว “การพึ่งพาตนเองคือเรื่องที่สำคัญเพื่อสร้างพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติ พึ่งพาตนเองเพื่อสามารถเชื่อมโยงกับโลกได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสามารถเข้าถึงมาตรฐาสากลและขยายขอบเขตของสวัสดิการสังคม สองคือ ผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามแนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้น สำหรับเรื่องนี้ต้องระดมแหล่งพลังจากภายนอก หุ้นส่วนที่พัฒนาและภาคเอกชน”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า เพื่อสามารถพึ่งพาตนเองในการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงหลังวิกฤตโควิด -19 โดยเฉพาะในการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 เวียดนามต้องส่งเสริมความแข็งแกร่งภายใน ความมุ่งมั่น สติปัญญาและวัฒนธรรมของคนเวียดนาม นาย ฝ่ามดิ่งดว่าน รองประธานสภาสมาคมสถานประกอบการเวียดนามส่วนกลางและกรรมการเครือบริษัท ฟู้ท้าย กล่าวว่า ประสบการณ์ในการพึ่งพาตนเองของประเทศต่างๆจะช่วยผลักดันความคิดริเริ่มที่เอื้อประโยชน์ให้แก่เวียดนามและมีบทบาทสำคัญในระดับภูมิภาค เวียดนามสามารถพัฒนาในวันนี้เนื่องจากการผสมผสานระหว่างพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติกับพลังที่เข้มแข็งของยุคใหม่ ซึ่งพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติคือการยกระดับจิตใจแห่งประชาชาติ ความสามัคคีและทักษะความสามารถของสถานประกอบการ ของรัฐบาลและของระบบเศรษฐกิจเวียดนาม ส่วนพลังที่เข้มแข็งของยุคใหม่คือการรับรู้แนวโน้มการพัฒนาของเศรษฐกิจโลกและปฏิบัติตาม “เราไม่เพียงแต่ต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น หากยังต้องพยายามปรับตัวด้วย สถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการเวียดนามต้องมีการปรับตัวในระดับสูง ส่วนนโยบายของรัฐก็ต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงมากขึ้นเพื่อช่วยให้สถานประกอบการสามารถร่วมมือกับรัฐบาลปฏิบัติยุทธศาสตร์การพึ่งพาตนเองและปรับตัวได้เป็นอย่างดี”