(Photo Vietnamnet.vn)
|
แนวโน้มการย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนามได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเนื่องจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ก็เป็นแรงกระตุ้นให้แนวโน้มนี้เร็วขึ้น โดยนอกจากประเทศสหรัฐ ก็มีอีกหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีได้แสดงความพร้อมสนับสนุนสถานประกอบการของประเทศตนย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน เครือบริษัท Apple ของสหรัฐได้เดินหน้าทำการผลิตหูฟังไร้สายAirPodsในเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะผลิตนับล้านชิ้นและอาจมีการผลิตอุปกรณ์อื่นๆในเวียดนามด้วย เมื่อเร็วๆนี้ ทางบริษัทฯได้ประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งด้านเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นการเตรียมบุคลากรเพื่อดูแลการผลิตในเวียดนาม ส่วนกลุ่มบริษัทรายใหญ่อื่นๆเช่น Microsoft, Samsung และ LG ก็เพิ่มการลงทุนในตลาดเวียดนาม
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสถานประกอบการที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมา นาย เหงียนชี้หยุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนยืนยันว่า “ปัจจุบันนี้ ชื่อเสียงและสถานะของเวียดนามกำลังได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศผ่านผลงานที่ได้บรรลุในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งถือเป็นโอกาสทองให้โลกรู้จักเวียดนามมากขึ้น การได้รับความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์ การเป็นสถานที่ลงทุนที่ปลอดภัยและพร้อมรับแหล่งเงินทุนที่ย้ายมาจากประเทศอื่นจะช่วยให้เวียดนามเป็นประเทศเดินหน้าในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างสถานะใหม่บนเวทีโลก”
นาย Nicolas Audierประธานสมาคมสถานประกอบการยุโรปประจำเวียดนามหรือ EuroChamแสดงความคิดเห็นว่า เวียดนามกำลังอยู่แถวหน้าของประเทศทั่วโลกในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งมาตรการที่เข้มแข็งเพื่อต่อต้านการแพร่ระบาด รวมทั้งมาตรการสาธารณสุขชุมชนที่ทันการณ์บวกกับวงเงินช่วยเหลือเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพได้ช่วยให้เวียดนามเป็นตัวอย่างในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19ในระดับโลก “มาตรการที่เข้มแข็งดังกล่าวได้ช่วยให้เวียดนามรักษาผลงานในด้านเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2020 เพิ่มการดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ ซึ่งช่วยรักษาความเชื่อมั่นของชมรมสถานประกอบการยุโรปที่มองว่า เวียดนามเป็นจุดลงทุนที่ปลอดภัย น่าสนใจและมีขีดความสามารถในการแข่งขัน เวียดนามมีเงื่อนไขที่ดีเพื่อรับโอกาสการลงทุนและการประกอบธุรกิจใหม่ๆ ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพมากขึ้นผ่านการเข้าถึงอย่างเป็นฝ่ายรุกคือควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ”
ส่วนนาย Hong Sun อุปนายกสมาคมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีประจำเวียดนามหรือ Korchamแสดงความคิดเห็นว่า ไม่เพียงแต่นักลงทุนสาธารณรัฐเกาหลีแล้วก็มีนักลงทุนจากประเทศอื่นๆสนใจอยากหาโอกาสการลงทุนในเวียดนามเช่นกัน “ สถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีชื่นชมการปฏิรูปบรรยากาศการลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งมีส่วนร่วมปรับปรุงความเชื่อมั่นของชมรมสถานประกอบการและนักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับประเทศเวียดนามในฐานะเป็นจุดลงทุนที่ปลอดภัยและน่าสนใจ แม้ยังมีอุปสรรคและความท้าทายต่างๆแต่เวียดนามได้มีมาตรการรับมือการแพร่ระบาดและสนับสนุนสถานประกอบการอย่างมีประสิทธิภาพ ชมรมสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีให้คำมั่นจะเดินพร้อมกับเวียดนามพัฒนาเศรษฐกิจต่อไปและมีส่วนร่วมปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้สะดวกมากขึ้น”
ใน 4 เดือนแรกของปี 2020 คำมั่นเกี่ยวกับการจัดสรรเงินทุนเอฟดีไอในเวียดนามได้บรรลุประมาณ 12.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ลดลงร้อยละ 15.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ ตัวเลขเอฟดีไอในเดือนเมษายนได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 81 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมและเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 62 เทียบกับเดือนเมษายนของปี 2019 นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามกำลังอยู่อันดับ 12 ในกลุ่มตลาดที่เพิ่งโดดเด่นเกี่ยวกับความมั่นคงด้านการเงินจากทั้งหมด 66 ประเทศ ซึ่งนี่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพการขยายตัวของเวียดนามในระยะยาวว่าจะยั่งยืนและสูงมาก “หนังสือพิมพ์ Economics ได้ชื่นชมเวียดนามที่อยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจที่ปลอดภัยหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 รวมทั้งมีดัชนีหนี้สาธารณะ หนี้ต่างประเทศ ดัชนีเงินกู้และการสำรองเงินตราจากต่างประเทศที่อยู่ในระดับที่ดี ส่วนธนาคารโลกก็ให้ข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามมีเสถียรภาพ หนี้รัฐบาลลดลง เศรษฐกิจมีความเข้มแข็ง มีอัตราการสำรองเงินตราต่างประเทศสูงและธนาคารชาติเวียดนามได้ลดดอกเบี้ยอย่างทันการณ์ นั่นคือผลงานที่เวียดนามได้บรรลุในหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจพัฒนาและมีความสมดุล เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆซึ่งเปิดโอกาสให้สถานประกอบการเวียดนามเจาะตลาดระหว่างประเทศ กระแสการย้ายฐานการผลิตในปัจจุบันได้ช่วยให้เวียดนามเป็นตัวหมากที่สำคัญซึ่งผู้เล่นทุกคนต่างมีความปรารถนาว่าจะมีตัวหมากตัวนี้ ส่วนสถานประกอบการเวียดนามกำลังเป็นผู้เล่นที่มีโอกาสเดินหน้า จึงเร่งใช้โอกาสนี้อย่างเต็มที่”
เวียดนามกำลังพิจารณากระแสการลงทุนจากประเทศต่างๆเพื่อรับโอกาส โดยกำลังปรับปรุงกฎหมายการลงทุน กฎหมายสถานประกอบการและปฏิบัติแผนปฏิบัติการต่างๆเพื่อปฏิบัติมติดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในสถานการณ์ใหม่ ส่วนเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดต่างๆก็ได้วางแผนและเตรียมความพร้อมในด้านที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานและแหล่งบุคลากรเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนเมื่อย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนาม.