(VOVworld) – ในหลายปีมานี้ ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่หน่วยงานการเกษตรยังคงเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจเวียดนาม โดยเฉพาะ ภาคการเกษตร ของป่าและสัตว์น้ำได้มีส่วนร่วมสำคัญในมูลค่าการส่งออกของเวียดนาม ถึงอย่างไรก็ดีภายหลัง ๕ ปีที่เข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกหรือ WTO สินค้าส่งออกหลายชนิดยังไม่สามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ แถมยังต้องเจอกับกำแพงภาษีจากประเทศนำเข้าซึ่งได้สร้างความท้าทายต่อหน่วยงานการเกษตรของเวียดนามเมื่อเข้าเป็นสมาชิกของWTO

การส่งออกสัตว์น้ำเวียดนามมีส่วนร่วมสำคัญต่อจีดีพีของประเทศ(vietnamplus.vn)

ผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศมาเป็นเวลากว่า ๒๕ ปี ภาคการเกษตรของเวียดนามสามารถบรรลุผลสำเร็จต่างๆที่น่ายินดี ไม่ว่าจะเป็นการผลิตมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยบรรลุร้อยละ ๔.๓ ต่อปี การส่งออกสินค้าการเกษตร ของป่าและสัตว์น้ำคิดเป็นร้อยละ ๒๕ ถึง ๓๐ ของยอดมูลค่าการส่งออกของประเทศในตลอด ๕ ปีที่ผ่านมาและจนถึงปัจจุบัน เวียดนามมีสินค้าการเกษตรส่งออกหลักบางรายการที่นับวันมีบทบาทสำคัญในตลาดโลก เช่น ข้าวซึ่งเวียดนามส่งออกมากเป็นอันดับ ๒ ของโลก ส่วนกาแฟ พริกไทย มะม่วงหิมพานต์ ยางพาราและสัตว์น้ำก็ล้วนแต่ได้รับความนิยมจนติดอันดับต้นๆในตลาดโลก ภายหลัง ๕ ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของ WTO ตลาดส่งออกสินค้าการเกษตร ของป่า สัตว์น้ำของเวียดนามได้รับการขยายกว้างและมีส่วนแบ่งที่มั่นคงในตลาดที่มีศักยภาพหลายแห่ง เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐและประเทศต่างๆในยุโรป เป็นต้น ในสภาวะการณ์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ แม้ภาคการผลิตของเวียดนามจะชลอตัวลงในบางส่วน แต่ภาคการเกษตรยังคงบรรลุการขยายตัวต่อไปโดยในปี ๒๐๑๒ มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำบรรลุ ๖.๒ พันล้านเหรียญสหรัฐ มีส่วนร่วมต่อจีดีพีของประเทศ ท่าน Lê Bá Lịch จากสหพันธ์ผลิตอาหารสัตว์เวียดนามได้แสดงความเห็นว่า“หลังจากเข้าเป็นสมาชิกของWTO ภาคการเกษตรของเวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี ถึงแม้วิกฤติเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเวียดนาม แต่ภาคการเกษตรของเวียดนามยังคงมีการพัฒนาและเป็นพลังขับเคลื่อนของเศรษฐกิจ”

เวียดนามมีสินค้าการเกษตรส่งออกหลักบางรายการที่นับวันมีบทบาทสำคัญในตลาดโลก (Photo: chinhphu.vn)

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากผลงานที่ได้บรรลุแล้ว กระบวนการเข้าเป็นสมาชิกของWTO ก็สร้างความท้าทายไม่น้อยต่อหน่วยงานการเกษตรของเวียดนามโดยการสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าการเกษตรยังไม่ได้รับความสนใจอย่างเต็มที่ซึ่งได้ทำให้มูลค่าสินค้าการเกษตรของเวียดนามยังอยู่ในระดับต่ำ ในกระบวนการผสมผสาน การส่งออกสินค้าการเกษตร ของป่าและสัตว์น้ำยังต้องเผชิญกับปัญหาการกีดกันทางการค้าจากนโยบายคุ้มครองในบางตลาดใหญ่ซึ่งนับเป็นบทเรียนที่เวียดนามต้องถอดประสบการณ์เพื่อแก้ไขปัญหานี้ในเวลาที่จะถึง นาย Nguyễn Hữu Dũng ประธานสหพันธ์แปรรูปและส่งออกสัตว์น้ำเวียดนามได้เผยว่า“หน่วยงานสัตว์น้ำเวียดนามได้เจาะตลาดโลกตั้งแต่ก่อนเข้าเป็นสมาชิกของWTO แต่หลังจากเข้าเป็นสมาชิกของWTOก็ทำให้หน่วยงานสัตว์น้ำเวียดนามมีเงื่อนไขที่สะดวกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนนี้ สหรัฐสามารถทำการฟ้องร้องเวียดนามขายทุ่มตลาดปลาสวายหรือกุ้ง แต่หลังจากที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของ WTO เวียดนามก็มีสิทธิ์ฟ้องกลับใน WTO เช่นกันว่า การใช้นโยบายของสหรัฐนั้นถูกกฤเกณฑ์หรือไม่และพวกเราได้ชนะสหรัฐในคดีนี้”

การสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าเกษตรส่งออกคือความต้องการที่เร่งด่วนเมื่อเวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกมากขึ้น โดยเฉพาะการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของสินค้าเกษตรต่างๆ เช่น กุ้ง ปลาและกาแฟ เป็นต้น เพื่อช่วยให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงความเสียหาย ปัญหาอีกประการที่มีความสำคัญคือ ต้องปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สินค้าเกษตรซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ เวียดนามต้องผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่ๆและทักษะในการบริหารที่ทันสมัย ฝึกอบรมแหล่งบุคคลากรและผู้บริหารที่มีความคล่องตัวมากขึ้น สถานประกอบการต้องให้ความสนใจถึงการเปลี่ยนแปลงใช้เทคโนโลยีใหม่ ปรับเปรี่ยนทักษะการบริหาร เพิ่มผลผลิตและคุณภาพ นอกจากนี้ เพื่อปฏิบัติตามคำมั่นที่เวียดนามให้ไว้ตอนเข้าเป็นสมาชิกของ WTO เวียดนามต้องทำการปฏิรูปนโยบายเศรษฐกิจ การค้าตามแนวทางเพิ่มความโปร่งใสและเสรี โดยเฉพาะ คำมั่นด้านกฏหมาย ระเบียบราชการและการเปิดตลาด

เครื่องหมายการค้ากาแฟเวียดนามได้รับความนิยมในตลาดโลก (tinmoi.vn)

เวียดนามจะต้องปฏิบัติคำมั่นของที่ประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศในกรอบองค์การการค้าโลกในระดับทวิภาคีและพหุภาคีให้สมบูรณ์มากขึ้น รวมทั้ง คำมั่นในข้อตกการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปและข้อตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิกซึ่งจะได้ลงนามและมีผลบังคับใช้ในขอบเขตที่กว้างใหญ่กว่าพร้อมคำมั่นในการเปิดตลาดในระดับที่สูงขึ้น ภาคการส่งออกสินค้าการเกษตร ของป่าและสัตว์น้ำจะยังคงทำรายได้เข้าประเทศในระดับสูงต่อไป ดังนั้น การเสริมสร้างและพัฒนาเครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าการเกษตรยังคงเป็นปัญหาที่เวียดนามต้องให้ความสำคัญเพื่อให้หน่วยงานการเกษตรเวียดนามพัฒนาอย่างยั่งยืนในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก./.