เมืองท่าไฮฟองเร่งฉีดวัคซีนให้แก่แรงงาน |
เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท LG ของสาธารณรัฐเกาหลีได้เพิ่มเงินลงทุนอีก 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่บริษัท LG Display ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ตั้งอยู่ในเมืองท่าไฮฟอง ทำให้ยอดเงินลงทุนในเมืองท่าไฮฟองเพิ่มขึ้นเป็น 4.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นโครงการเอฟดีไอที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ ส่วนในช่วงต้นปีทางบริษัท LG Display ยังได้รับเงินลงทุนอีก 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลักดันการผลิตหน้าจอ OLED TVและหน้าจอ OLED
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ นอกจากมีโครงการเอฟอีไอใหม่ๆเข้ามาลงทุนแล้วก็มีหลายโครงการได้ปรับเพิ่มเงินลงทุนในนครไฮฟอง เช่น บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ Tongwei จำกัด ได้เพิ่มเงินลงทุน 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, บริษัท Ohsung Vina เพิ่มเงินทุนอีก 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ส่วนบริษัท Shanghai Moons Electronics เพิ่มเงินลงทุนอีก 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น ซึ่งโครงการเหล่านี้นับวันเปลี่ยนแปลงจากการลงทุนในวงกว้างมาเป็นการลงทุนในเชิงลึกที่ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การที่เมืองท่าไฮฟองสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขและพลังขับเคลื่อนเพื่อช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจ นาย Park Jae Hong รองผู้อำนวยการใหญ่บริษัท LG Display Vietnam จำกัดในเมืองท่าไฮฟองได้กล่าวว่า “เราขอชื่นชมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ของเมืองท่าไฮฟอง นั่นคือพื้นฐานเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆรู้สึกปลอดภัยเพื่อทำการผลิตและประกอบธุรกิจในเมืองท่าไฮฟอง เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่แรงงานของเราได้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุด”
เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในเวลาที่ผ่านมา ผู้บริหารเมืองท่าไฮฟองและสำนักงานที่เกี่ยวข้องได้หารือกับตัวแทนของสถานประกอบการอยู่เสมอเพื่อแก้ไขอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการลงทุน นาย บุ่ยหงอกหาย รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจไฮฟองเผยว่า “เราต้องดึงดูดเงินทุนเพิ่มอย่างน้อย 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงต้องเตรียมพร้อมให้แก่ปีหน้าตั้งแต่บัดนี้แล้ว โดยเตรียมก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ เคลียร์พื้นที่ เตรียมที่ดินและแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยให้แก่แรงงาน ซึ่งก่อนอื่นต้องเน้นเคลียร์พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับใบอนุญาต เช่น นิคมอุตสาหกรรม Deep C3, VSIP, An Duongและ Trang Due เป็นต้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น”
ในการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้กับคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจไฮฟอง นายเจิ่นลิวกวาง เลขาธิการพรรคสาขาเมืองท่าไฮฟองได้ย้ำว่า เมืองท่าไฮฟองจำเป็นต้องส่งเสริมความได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์และระบบการขนส่งที่หลากหลาย มีสนามบิน ท่าเรือ และระบบถนนที่สะดวก ควบคู่กับการแสวงหาและดึงดูดนักลงทุนและสถานประกอบการรายใหญ่ๆ จังหวัดไฮฟองต้องผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและปฏิรูประเบียบรายชการต่อไปเพื่อสนับสนุนนักลงทุน
ปัจจุบันนี้ ในเมืองท่าไฮฟองมีนิคมอุตสาหกรรม 12 แห่ง โดยมีอัตราการสถานประกอบการดำเนินการถึงร้อยละ 62.5 เพื่อดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ระดับโลก ในช่วงปี 2021 - 2025 เมืองท่าไฮฟองจะก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมใหม่อีก 15 แห่ง รวมพื้นที่กว่า 6,200 เฮกตาร์เพื่อเป็นพื้นฐานให้เมืองท่าไฮฟองสามารถบรรลุเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศให้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในอีก 5 ปีข้างหน้า.