(VOVworld) – จนถึงปัจจุบัน เวียดนามกำลังย่างเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือTPPกับสหรัฐและเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTAกับยุโรป การตอบสนองความต้องการเมื่อเข้าร่วมข้อตกลงเหล่านี้เป็นความท้าทายแต่ก็เปิดโอกาสเพื่อให้เวียดนามขยายการส่งออก โดยเฉพาะ การส่งออกเครื่องหนังและรองเท้า
|
การผลิตรองเท้าเพื่อส่งออก(Photo:Nhandan) |
ข้อตกลงTPPและข้อตกลงFTAจะเปิดโอกาสมากมายให้แก่บรรดาสถานประกอบการเวียดนาม การปฏิบัติคำมั่นเข้าร่วมข้อตกลงTPPกับสหรัฐและข้อตกลงFTAกับยุโรปช่วยให้บรรดาสถานประกอบการเครื่องหนังและรองเท้าเวียดนามเสียภาษีในระดับต่ำหรือ๐%ซึ่งสิ่งนี้มีความหมายสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าส่งออกของเวียดนาม อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อให้บรรดาสถานประกอบการเครื่องหนังและรองเท้าเวียดนามเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเครื่องหมายการค้าใหญ่ๆของโลก
ปัจจุบัน เวียดนามมีสถานประกอบการเครื่องหนังและรองเท้าส่งออกกว่า๕๐๐แห่ง มีปริมาณการผลิตอยู่ที่๔๐๐ถึง๕๐๐คู่ต่อปี เมื่อปี๒๐๑๓ มูลค่าการส่งออกเครื่องหนัง รองเท้าและกระเป๋าหิ้วอยู่ที่๑๐.๓๒พันล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะ มูลค่าการส่งออกรองเท้าและรองเท้าแตะอยู่ที่๘.๔พันล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามอยู่อันดับ๒ของโลกในด้านการผลิตรองเท้า รองจากจีน อย่างไรก็ดี ในหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าของเวียดนามส่วนใหญ่ยังคงเป็นแค่การรับจ้างผลิต แหล่งวัตถุดิบ โดยเฉพาะ วัตถุดิบเพื่อประกอบการผลิตรองเท้าหลายส่วนยังคงต้องนำเข้าซึ่งทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคซึ่งก็เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าเวียดนามเพราะว่า หลังจากที่TPPได้รับการอนุมัติจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับอัตราการใช้วัตถุดิบภายในประเทศต่อผลิตภัณฑ์รองเท้าเพื่อได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษี นายเลกวางหยวานผู้อำนวยการบริษัทเครื่องหนังรองเท้ามินห์มินห์เหยี่ยวกล่าวว่า“แหล่งวัตถุดิบมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการผลิต ผมมีความประสงค์ว่า รัฐจะมีนโยบายช่วยเหลือสถานประกอบการผลิตวัตถุดิบเพื่อสามารถพัฒนาและแข่งขันด้านคุณภาพและต้นทุนการผลิตเมื่อเทียบกับแหล่งวัตถุดิบนำเข้าจากต่างชาติเพื่อมีส่วนร่วมผลักดันการผลิตเครื่องหนังและรองเท้าภายในประเทศและการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ”
อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าเวียดนามมีงานที่ต้องทำมากมายเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ สิ่งที่สำคัญคือการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม การจัดตั้งเขตผลิตวัตถุดิบเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงTPP ปัจจุบันเวียดนามมีสถานประกอบ การที่ผลิตวัตถุดิบและเครื่องจักรอุปกรณ์๑๑๙แห่งโดยเป็นสถานประกอบ การหุ้นส่วนเอกชน๗๒แห่ง และสถานประกอบการที่มีเงินทุนจากต่างประเทศ๔๔แห่ง สถานประกอบการจัดสรรวัตถุดิบจำนวนมากได้เสนอให้มีการเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการผลิตวัตถุดิบกับสถานประกบการผลิตเครื่องหนังรองเท้าและกระเป๋าหิ้วผ่านการเรียกร้องสถานประกอบการเข้าร่วมการส่งเสริมการค้า นายเลกวางหยวานกล่าวต่อไปว่า“รัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ คณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ และจังหวัดต่างๆทางภาคเหนือและภาคใต้ควรจัดงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับรองเท้าหนังของเวียดนามเพื่อให้ผู้ผลิตวัตถุดิบและผู้ผลิตรองเท้าเพื่อส่งออกได้พบปะกันและมีการเสนอให้บริษัทผลิตรองเท้าให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการใช้สินค้าเวียดนามเพื่อให้อัตราการใช้วัตถุดิบภายในประเทศอยู่ในระดับสูงซึ่งทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น”
จากการตระหนักถึงอุปสรรคที่ต้องฟันฝ่า อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้ากำลังวางมาตรการพัฒนาให้มีความเหมาะสม เช่น ปรับปรุงโครงสร้างของอุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้า ลงทุนใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์อีกทั้งใช้ความได้เปรียบจากการประกอบธุรกิจที่สะดวกต่างๆ
ปี๒๐๑๔ อุตสาหกรรมเครื่องหนังและรองเท้าเวียดนามได้ถูกถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อการตัดสิทธิ์เป็นรายประเทศ (Country Graduation) ของสหภาพยุโรปหรืออียูและได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปหรือGPSเป็นเวลา๓ปีโดยเริ่มตั้งแต่วันที่๑มกราคมปี๒๐๑๔ เป็นอันว่า ใน๓ปีที่จะถึง อัตราภาษีต่อผลิตภัณฑ์รองเท้าและรองเท้าแตะที่มีแหล่งผลิตจากเวียดนามจะลดจากร้อยละ๑๓ถึงร้อยละ๑๔ลงเหลือร้อยละ๓.๕ถึงร้อยละ๔ ทั้งนี้จากการเปลี่ยนแปลงที่ดีในตลาด บรรดาสถานประกอบการเครื่องหนังและรองเท้าเวียดนามเชื่อว่า จะสามารถปฏิบัติเป้าหมายการส่งออกที่ได้วางไว้ในปี๒๐๑๔คือ๑หมื่น๒พันล้านเหรียญสหรัฐอย่างลุล่วงไปด้วยดี./.