(VOVworld) ในหลายปีมานี้ แม้จะประสบผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกแต่อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามยังคงบรรลุมูลค่าการส่งออกที่น่าประทับใจและเป็น 1 ใน 5 อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการส่งออกมากที่สุดของเวียดนาม ซึ่งในปี 2010 ได้บรรลุมูลค่า 11.2 พันล้านเหรียญสหรัฐและปี 2011 อยู่ที่ 13.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในปี 2012 นี้ได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะพยายามบรรลุ 1หมื่น5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-12 ในเดือนมกราคมนี้ สถานประกอบการร้อยละ 70 ได้รับใบสั่งซื้อในไตรมาสแรกและตลอดทั้งปีแล้ว ซึ่งถือเป็นโอกาสเพื่อให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามยืนยันถึงสถานะในการส่งออก สมาพันธ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามเผยว่า ผลสำเร็จดังกล่าวมาจากการพยากรณ์ตลาดอย่างถูกต้อง การพัฒนาความสัมพันธ์และความเชื่อมั่นของลูกค้าจึงทำให้มูลค่าการส่งออกในตลาดหลักยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นาง Nguyen Thi Thanh Huyen ผู้อำนวยการบริษัทตัดเย็บเสื้อผ้าหมายเลข 10 เผยว่า “ สถานประกอบการบางแห่งได้เน้นส่งออกไปยังตลาดเล็กแต่บริษัทของเรายังคงขยายการส่งออกไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐ อียูและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสามารถในการแข่งขั้นของบริษัท”
เพื่อรักษาอัตราการขยายตัว หน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามได้ปฏิบัติมาตรการแก้ไขต่างๆเพื่อฟันฝ่าอุปสรรค โดยนอกจากการขยายตลาดส่งออกแล้ว ก็ยังให้ความสนใจต่อการพัฒนาตลาดภายในประเทศและทำการปฏิรูปหน่วยงานอีกด้วย ซึ่งในปี 2011 ความได้เปรียบดุลการค้าของหน่วยงานอยู่ที่6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับปี 2010 ส่วนอัตราการใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศของชาวเวียดนามได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ48 นาย Le Tien Truong รองผู้อำนวยการกลุ่มบริษัทสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามได้แสดงความคิดเห็นว่า “ในปี 2010 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จได้เปรียบดุลการค้า4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในปี 2011 อยู่ที่ 6.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดของหน่วยงาน ผมคิดว่า ในระยะยาว ถึงแม้ว่าตลาดโลกจะมีความผันผวนในด้านราคาแต่หน่วยงานของเราต้องพยายามประดับประดองให้ได้เพื่อเพิ่มความได้เปรียบดุลการค้าให้แก่ประเทศ”
ในเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้จะยังประสบอุปสรรคนานัปการ แต่สถานประกอบการสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามยังคงพยายามขยายไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น จีน สาธารณรัฐเกาหลี แองโกลา นิวซีแลนด์ อินเดียและรัสเซีย โดยเฉพาะลดการใช้วัตถุดิบนำเข้าและมีการเปิดโรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเต้อร์ Dinh Vu ในจ.ไฮฟองเมื่อปลายปี 2011 ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการได้ร้อยละ 40 และช่วยให้อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามสามารถรับมือกับความผันผวนของราคาตลาดโลกในเชิงรุก นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อลดการรับจ้างผลิต เพิ่มจำนวนสินค้าที่ส่งออกตามรูปแบบ FOB คือส่งออกผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปและ ODM คือส่งออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นรูปแบบของตัวเองและตั้งเป้าไว้ว่า อัตราการส่งออกของหน่วยงานในปี 2012 นี้จะบรรลุ 1หมื่น5 พันล้านเหรียญสหรัฐถึงแม้จะประสบความท้าทายนานัปการก็ตาม./.
To Tuan - VOV5