สถานประกอบการใช้โอกาสปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว

Thanh Trung - Huyen
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในสภาวการณ์ที่โลกกำลังมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงอย่างซับซ้อน การปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศต่างๆ รวมทั้งเวียดนาม ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่มีลักษณะเปิดกว้างนั้นมักจะประสบความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น ชมรมสถานประกอบการเวียดนามจึงพยายามใช้โอกาสเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคในกระบวนการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวและปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ส่วนการสนับสนุนด้านกลไกและนโยบายจากสำนักงานภาครัฐถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในกระบวนการนี้
สถานประกอบการใช้โอกาสปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว - ảnh 1 นาย เหงียนดว่านเก๊ด รองผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนผลิตหลอดไฟและกระติกน้ำร้อนหรางดง

ยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจ สังคมในระยะ 10 ปีตั้งแต่ปี 2021 - 2030 ได้กำหนดเป้าหมายการเป็นฝ่ายรุกเพื่อใช้โอกาสการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างเต็มที่บวกกับการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึกเพื่อปรับปรุงโครงสร้างของเศรษฐกิจและพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัล

จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว สถานประกอบการเวียดนามหลายแห่งได้เป็นฝ่ายรุกในการเปลี่ยนแปลงใหม่และผลักดันการปรับเปลี่ยนรูปแบบตามส่วนลึกพร้อมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นาย เหงียนดว่านเก๊ด รองผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วนผลิตหลอดไฟและกระติกน้ำร้อนหรางดงเผยว่า ทางบริษัท ให้ความสนใจลงทุนใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ซึ่งถึงขณะนี้ ได้ใช้ระบบอัตโนมัติถึงร้อยละ 70

ถึงแม้ได้บรรลุผลที่น่ายินดีต่างๆ ในเบื้องต้นแต่การผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียวของเวียดนามยังคงประสบอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนแหล่งพลัง ดร. ดั๋งแท้แอง รองหัวหน้าสถาบันวิจัยการจัดการเศรษฐศาสตร์ส่วนกลางให้ข้อสังเกตว่า จำเป็นต้องมีมาตรการ กลไกและนโยบายต่างๆ เพื่อผลักดันให้สถานประกอบการเพิ่มการลงทุนให้แก่การปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“เราขอย้ำถึงปัจจัยสำคัญแรกคือ ความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจและการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน โดยแก้ไขอุปสรรคต่างๆ ต่อจากนั้น ก็ต้องมีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมสำหรับแต่ละหน่วยงานและแต่ละด้าน”

เพื่อปฏิบัติเป้าหมายกลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและมีรายได้ปานกลางในระดับสูงภายในปี 2030 และเป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 เวียดนามต้องธำรงอัตราการขยายตัวให้อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องในอีกหลายสิบปี ในสภาวการณ์ที่การขยายตัวของเศรษฐกิจแบบเก่าที่พึงพาแรงงานราคาถูก เงินทุนหรือทรัพยากรธรรมชาติที่นับวันน้อยลงนั้น ผลิตภาพแรงงานจะเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ ท้องถิ่นและสถานประกอบการเวียดนาม นาย ฉือดึ๊กหว่าง ปลัดสำนักงานกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีแห่งชาติ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแสดงความคิดเห็นว่า

เราควรลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนให้แก่การปฏิบัตินโยบายต่างๆ และอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเป็นฝ่ายรุกในการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี สถานประกอบการควรพยายามแต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากชุมชน สถาบัน มหาวิทยาลัย นักวางแผนนโยบายและแหล่งเงินทุนต่างๆ“

ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่นั้น นโยบายสนับสนุนสถานประกอบการก็ต้องมีความโปร่งใสและชัดเจน โดยถือสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะช่วยให้การช่วยเหลือสถานประกอบการมีประสิทธิภาพและมีส่วนร่วมปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่เศรษฐกิจและช่วยให้เวียดนามสามารถ “ตามทัน พัฒนาและแซงหน้า” ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคได้ ศ.ดร. เหงียนดิ่งเถาะ หัวหน้าสถาบันยุทธศาสตร์ นโยบายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมแสดงความคิดเห็นว่า

“มาตรฐานแห่งสีเขียวของเวียดนามต้องสอดคล้องกับมาตรฐานของยุโรป ธนาคารโลก AFC และองคกรการเงินด้านสภาพภูมิอากาศอื่นๆ ถ้าหากสถานประกอบการตอบสนองมาตรฐานแห่งสีเขียวของเวียดนามก็สามารถตอบสนองมาตรฐานในด้านนี้ขององค์กรการเงินต่างๆ ในทั่วโลก นี่คือเป็นโอกาสให้สถานประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแห่งสีเขียวในทั่วโลก”

เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจแห่งสีเขียวจะช่วยให้เวียดนามกลายเป็นประเทศพัฒนาที่มีรายได้สูงในปี 2045 โดยเร็ว แต่เพื่อใช้โอกาสต่างๆ จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียวที่มีเป้าหมายและขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมและพร้อมเพรียง ในสภาวการณ์การผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก สถานประกอบการเวียดนามยังคงพยายามเปลี่ยนแปลงความคิดและเทคโนโลยี ลงทุนในการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน.

Feedback