|
การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจเวียดนามที่กำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและมีการเปิดตัวในขอบเขตกว้าง ความสามารถในการพึ่งพาตนเองและการรับมือกับปัญหาของเวียดนามยังขาดความเข้มแข็ง ส่งผลให้การผลิตและประกอบธุรกิจ ห่วงโซ่อุปทานและการค้าประสบภาวะชะงักงัน ในสภาวการณ์ดังกล่าว เวียดนามได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมกับการธำรงและพัฒนากิจกรรมด้านการเกษตรและสังคม โดยรัฐบาลได้ประกาศใช้กลไกและนโยบายต่างๆอย่างทันท่วงทีเพื่อช่วยเหลือประชาชนและสถานประกอบการแก้ไขอุปสรรคและผลักดันการเบิกจ่ายเงินภาครัฐโดยเร็วที่สุด ในการรายงานเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และหน้าที่หลักในการฟื้นฟูพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในการประชุมครั้งที่ 9 สภาแห่งชาติสมัยที่ 14 เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟู๊ก ได้ย้ำว่า “แม้ประสบอุปสรรคและความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ต่างๆ แต่จากความพยายามของทั้งระบบการเมือง สำนักงาน หน่วยงานทุกระดับ ชมรมสถานประกอบการและประชาชนทั่วประเทศภายใต้การชี้นำของพรรค เวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสามารถธำรงระบบเศรษฐกิจมหภาคให้มีเสถียรภาพและมีความสมดุล อำนวยความสะดวกเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมหลังโควิด - 19 โดยในการส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ สินค้า 15 รายการสามารถธำรงอัตราการขยายตัวในระดับสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เปรียบดุลการค้า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บรรยากาศการประกอบธุรกิจได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นและการปฏิรูประเบียบราชการได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ส่วนอัตราจีดีพีถึงแม้ลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วแต่ในไตรมาสแรกก็ยังคงบรรลุร้อยละ 3.82 ติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัว GDP ในระดับสูงของภูมิภาคและโลก”
การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วพร้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในภาวะชีวิตวิถีใหม่ ไม่เพียงแต่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนภายในประเทศเท่านั้น หากยังช่วยให้เวียดนามเป็นฝ่ายรุกในการรับโอกาสใหม่ๆได้อย่างเต็มที่ในขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจโลก แนวทางการผลิต การประกอบธุรกิจและการอุปโภคบริโภคมีการเปลี่ยนแปลงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19
ในสภาวการณ์ดังกล่าว สถานประกอบการเวียดนามได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนวิธีการผลิต ยกระดับทักษะความสามารถ เปลี่ยนแนวทางและพัฒนากิจกรรมการประกอบธุรกิจ แสวงหารูปแบบการพัฒนาใหม่ ใช้โอกาสจากตลาดและแนวทางการโยกย้ายการลงทุนและการผลิตในภูมิภาคและโลกได้อย่างเต็มที่ หลังจากที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ในเบื้องต้น สถานประกอบการหลายแห่งก็พัฒนาอย่างรวดเร็วในภาวะชีวิตวิถีใหม่ นาย หวอชี้แถ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแสดงความคิดเห็นว่า การปรับตัวของสถานประกอบการเวียดนามใน 5 เดือนที่ผ่านมามีความคล่องตัวและชาญฉลาด “ก่อนอื่นควรมีความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความหมายของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบ่งเป็นสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกคือพยายามเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เพิ่มมาตรการแก้ไขและเพิ่มการเชื่อมโยงกับตลาดและหุ้นส่วน กลุ่มที่2 คือพยายามพัฒนารูปแบบการประกอบธุรกิจ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเข้มแข็ง เช่น ขายสินค้าออนไลน์ เปลี่ยนแปลงวิธีการบริหาร และการประสานปฏิบัติการ เช่น จัดกลุ่มเฉพาะกิจเหมือนคณะกรรมการชี้นำของรัฐบาลที่ปฏิบัติงานอย่างรวดเร็วเหมือนในยุคสงคราม”
จากการเดินพร้อมของรัฐบาลในการบริหารอย่างเป็นฝ่ายรุกและคล่องตัวโดยประกาศนโยบายต่างๆเพื่อช่วยให้สถานประกอบการทำการผลิตอย่างมีเสถียรภาพ ในเวลาที่ผ่านมา สถานประกอบการเวียดนามสามารถ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการปรับตัวและใช้โอกาสอย่างเต็มที่เพื่อการพัฒนา นาย หวอชี้แถ่ง ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจเผยต่อไปว่า “มีสถานประกอบการหลายแห่งได้ปรับตัว ซึ่งไม่เพียงแต่เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น หากยังเพื่อปฏิบัติความคาดหวังและวิสัยทัศน์ในระดับที่สูงกว่า การปรับตัวของสถานประกอบการในขณะนี้มีความเชื่อมโยงกับการปฏิรูปโครงสร้างของสถานประกอบการ การตลาดและวิธีการบริหารเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ระยะใหม่หลังโควิด 19”
ในเวลาข้างหน้า รัฐบาลจะเพิ่มเงินสินเชื่อ พิจารณาการชำระหนี้ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สถานประกอบการ ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและรวดเร็วเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาการผลิตและประกอบธุรกิจโดยเร็วพร้อมกับการปฏิรูปหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม อุตสาหกรรมประกอบ โดยเฉพาะสถานประกอบการในภาคการบริการ การท่องเที่ยวและการบิน ผลักดันให้สถานประกอบการเวียดนามพัฒนาการผลิตและประกอบธุรกิจมากขึ้นรวมทั้งจัดตั้งห่วงโซ่อุปทาน ห่วงโซ่มูลค่าและขยายการส่งออก ควบคู่กันนั้นจะเกาะติดสถานการณ์เพื่อมีมาตรการช่วยเหลืออย่างทันการณ์และกระตุ้นเศรษฐกิจให้พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงหลังภาวะวิกฤตโควิด - 19./.