สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามยืนยันส่วนแบ่งในตลาดภายในประเทศ

Chia sẻ
(VOVworld) - ปัจจุบัน กระแสการลงทุนจากผู้ขายปลีกต่างชาติที่เข้ามาขยายตลาด หรือ  ซื้อหุ้นบริษัทต่างๆกำลังสร้างแรงกดดันต่อหน่วยงานขายปลีกเวียดนาม  ซึ่งรัฐบาลเวียดนามกำลังวางยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนสถานประกอบการขาย ปลีกในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อครองส่วนแบ่งตลาดภายใน ประเทศต่อไป
(VOVworld) - ปัจจุบัน กระแสการลงทุนจากผู้ขายปลีกต่างชาติที่เข้ามาขยายตลาด หรือ  ซื้อหุ้นบริษัทต่างๆกำลังสร้างแรงกดดันต่อหน่วยงานขายปลีกเวียดนาม  ซึ่งรัฐบาลเวียดนามกำลังวางยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนสถานประกอบการขายปลีกในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อครองส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศต่อไป
สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามยืนยันส่วนแบ่งในตลาดภายในประเทศ - ảnh 1
ระบบ Vinmart ในเวียดนาม (Photo: baoxaydung.com.vn)
เมื่อเร็วๆนี้ เครือกรุ๊ป(Central Group) ได้ซื้อกิจการ "บิ๊กซี เวียดนาม" ซึ่งทำให้เครือเซ็นทรัลกรุ๊ปสามารถครองส่วนแบ่งตลาดขายปลีกเวียดนามได้เกือบร้อยละ 70 ส่วนสถานประกอบการขายปลีกจากสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นได้ร่วมทุนและซื้อหุ้นตั้งแต่ร้อยละ 20 – 40 ของบริษัทขายปลีกชั้นนำของเวียดนาม เช่น เหงวียนกิม เจิ่นแอง Fivimart และCitimart ซึ่งความเคลื่อนไหวเหล่านี้กำลังสร้างแรงกดดันต่อสถานประกอบการขายปลีกเวียดนามในการแข่งขันในตลาดภายในประเทศ อย่างเช่น Sài Gòn Coop บริษัทขายปลีกรายใหญ่ของเวียดนามก็มีความประสงค์ที่จะซื้อกิจการบิ๊กซี แต่ได้ประสบอุปสรรคในการจัดทำเอกสารขอใบอนุญาตลงทุนในต่างประเทศและการระดมเงินทุนเพื่อพัฒนาสถานประกอบการ นาย เหยี่ยบหยุง ประธานกรรมการบริหาร Sài Gòn Coop ได้เสนอว่า“พวกเราขอเสนอให้รัฐบาลเร่งจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานขายปลีกเวียดนามถึงปี2030 โดยเน้นพัฒนาสถานประกอบการขายปลีก 20 แห่งที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ อีกทั้งแก้ไขอุปสรรคต่างๆในการซื้อขายและการควบรวมกิจการให้แก่สถานประกอบการ”
แต่อย่างไรก็ดี การที่สินค้าจากต่างชาติได้เจาะตลาดเวียดนามอย่างรวดเร็วนั้นก็ถือเป็นโอกาสให้สถานประกอบการเวียดนามพัฒนาเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน นาย เหงวียนเติ๊นหว่างเห่า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัท เทียนหว่า ซึ่งประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เผยว่า“พวกเราจะลงทุนพัฒนาเครื่องหมายการค้า พร้อมทั้งลงทุนพัฒนาบริษัทให้ทันสมัยมากขึ้นเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและดึงดูดการลงทุน”
จากแนวโน้มดังกล่าว สถานประกอบการเวียดนามจะต้องวางยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจในการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ส่วนบรรดาผู้ผลิตก็ต้องยกระดับคุณภาพและลดราคาสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการขายปลีกทั้งภายในและต่างประเทศ นางเลถิแทงเลิม รองผู้อำนวยการใหญ่บริษัทหุ้นส่วน Sài Gòn Food กล่าวว่า“พวกเราจะลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีรสชาติถูกปากคนเวียดนามและมีราคาถูกเพื่อสามารถครองส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศ”
หลังการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก เวียดนามและประเทศต่างๆในภูมิภาคจะมีการปรับลดหรือยกเว้นภาษีสินค้าอุปโภคบริโภคนำเข้า 1 หมื่นรายการ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหม่สถานประกอบการ การผลักดันการเชื่อมโยงและความร่วมมือเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและการบริการจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้สถานประกอบการขายปลีกเวียดนามสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดภายในประเทศได้. 

Feedback