ปัจจุบัน เวียดนามมีผลิตภัณฑ์ 43 รายการที่ได้รับการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เช่น ดอกไม้ ผลไม้ อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่นของทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้ แต่อย่างไรก็ตาม ในทางเป็นจริง สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ต่างๆอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของหน่วยงานในท้องถิ่น ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจึงทำให้เกิดปัญหาการทำสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ปลอมและการขโมยเครื่องหมายการค้าของผลิตภัณฑ์เวียดนามในต่างประเทศ เช่น เครื่องหมายการค้าของนํ้าปลาฟู้ก๊วก นาย ฝ่ามหงอกแถ่ง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนที่ปรึกษาด้านการค้าเพื่อการพัฒนาฟุกเลิม ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์นํ้าปลาฟู้ก๊วกได้เผยว่า“ปัจจุบัน มีหลายผลิตภัณฑ์ใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของนํ้าปลาฟู้ก๊วกอย่างผิดกฎหมาย แต่บรรดาผู้บริโภคไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ จนทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นํ้าปลาฟู้ก๊วก”

ส่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญาสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามได้เผยว่า ในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียู อียูได้ตกลงคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ 39 รายการจากทั้งหมด 41 รายการที่เวียดนามเสนอ โดยส่วนใหญ่คือผัก ผลไม้ สัตว์นํ้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่แข็ง ซึ่งจากความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์มราสะอาดเช่นเดียวกับเงื่อนไขที่เข้มงวดด้านคุณภาพของตลาดอียูนั้นการที่ผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามได้รับการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะช่วยเปิดโอกาสให้แก่การส่งออกสินค้าเวียดนามมากขึ้น

ปัจจุบัน การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ต่างๆในเวียดนามกำลังประสบอุปสรรคในการรวมตัวเป็นสมาคมผู้ผลิตเนื่องจากพวกเขายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสำคัญของเรื่องนี้ ซึ่งสร้างอุปสรรคให้แก่การระบุข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตของผลิตภัณฑ์เฉพาะถิ่น บวกกับการตรวจสอบการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ขาดประสิทธิภาพจนทำให้เกิดปัญหาการทำสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ปลอม นาย เหงวียนก๊วกถิ่ง อาจารย์มหาวิทยาลัยการค้าได้เผยว่า“หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการบริหารจัดการตลาดยังมีข้อบกพร่องและขาดความร่วมมือระหว่างเขตผลิตผลิตภัณฑ์เกษตรเพื่อตรวจสอบการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ปลอม ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรหลายรายการของเวียดนาม”

เมื่อข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับอียูมีผลบังคับใช้ในปี 2018 อียูจะยอมรับการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ 39 รายการของเวียดนาม ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์นํ้าปลาฟู้ก๊วกและผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม เช่น แก้วมังกร กาแฟและชาสามารถใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สามารถก้าวข้ามกำแพงทางเทคนิคเพื่อเจาะตลาดอียู เวียดนามต้องจัดตั้งกลไกการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ระดับชาติก่อนที่จะประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ รวมทั้งต้องเรียนรู้ประสบการณ์ในการจัดทำระบบตรวจสอบสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของประเทศยุโรป นาย เจิ่นวันตุ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เผยว่า“ต้องจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในระหว่างการผลิต รวมทั้งการบรรจุและจำหน่ายสินค้าตามมาตรฐานต่างๆเพื่อป้องกันและต่อต้านปัญหาสินค้าปลอม”

การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จะเปิดโอกาสให้สินค้าเวียดนามเจาะตลาดต่างๆที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ต่างๆของเวียดนาม ผลักดันการพัฒนาการผลิตและป้องกันการใช้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ปลอม ดังนั้นการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกษตรคือแนวทางที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่การส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังตลาดอียู.