 จังหวัดลองอาน ได้ส่งออกมะนาวไปยังตลาดตะวันออกกลางผ่านสถานประกอบการรายใหญ่ๆ (Quang Anh) |
ภายหลังกว่า 1 ปีที่เจาะตลาดตะวันออกกลาง ถึงขณะนี้ ตัวแทนจำหน่ายของสหกรณ์ให้บริการเกษตรเบ๊นลึก จังหวัดลองอาน ได้เปิดสาขาที่ตลาดขายส่งดูไบ ซึ่งเป็นตลาดที่ขายส่งสินค้าเกษตรนำเข้า รวมทั้งมะนาวที่นำเข้าจากประเทศต่างๆ โดยที่นี่เป็นจุดกระจายสินค้าไปยังท้องถิ่นต่างๆ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตและประเทศเพื่อนบ้าน
นาย ฟานแทงเลียม ซึ่งเป็นหัวหน้าของสำนักงานตัวแทนจำหน่ายสาขานี้ของสหกรณ์ฯ เผยว่า งานประจำวันของเขาคือมาที่ตลาดนี้แต่เช้าเพื่อสำรวจความต้องการสินค้าเกษตรและเครื่องเทศของผู้บริโภคตะวันออกกลาง
“ไม่เพียงแต่ส่งออกมะนาวเท่านั้น แต่เรายังส่งออกสินค้าการเกษตรอื่นๆ ที่ท้องถิ่นมีความต้องการ เช่น ในช่วงเวลาที่ราคามะนาวตกต่ำ เราจะส่งออกแก้วมังกร มะพร้าวและฝรั่งพร้อมกับมะนาวผ่านบริษัทการค้าที่ดูไบเพื่อจำหน่ายโดยตรงให้แก่ลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มกำไรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน”
นับตั้งแต่ที่เปิดสำนักงานตัวแทนจำหน่ายในดูไบเมื่อต้นปีนี้ ทางสหกรณ์ฯ ได้ทำการส่งออกมะนาวไปยังตลาดขายส่งดูไบ 8-10 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน โดยแต่ละตู้มีมะนาว 24 ตัน นาย เจิ่นยวีถวน ผู้อำนวยการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า ถึงแม้ในเวลาที่ผ่านมา การส่งออกมะนาวประสบอุปสรรคมากมายเนื่องจากความผันผวนในตลาดและการปะทะในตะวันออกกลาง แต่ทางสหกรณ์ฯ ได้เป็นฝ่ายรุกในการหารือกับหุ้นส่วนในตะวันออกกลางโดยตรง ซึ่งช่วยให้การส่งออกและราคามะนาวยังคงมีเสถียรภาพ
“ตลาดตะวันออกกลางเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกมะนาวที่สำคัญของเรา โดยมีส่วนแบ่งการส่งออกมะนาวของสหกรณ์เบ๊นลึกลองอานถึงร้อยละ 80 สินค้าหลังจากที่ถูกส่งออกไปยังดูไบจะกระจายต่อไปยังประเทศต่างๆ เช่น โอมานและกาตาร์ เป็นต้น”
 นับตั้งแต่ที่เปิดสำนักงานตัวแทนจำหน่ายในดูไบทางสหกรณ์ฯ ได้ทำการส่งออกมะนาวไปยังตลาดขายส่งดูไบ 8-10 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน |
ปัจจุบันนี้ พื้นที่ปลูกมะนาวของเวียดนามส่วนใหญ่อยู่ที่จังหวัดลองอาน รวมพื้นที่กว่า 11,300 เฮกตาร์ โดยเยอะที่สุดคืออำเภอเบ๊นลึก ซึ่งมีพื้นที่กว่า 7,100 เฮกตาร์ ส่วนที่เหลือคืออำเภอแถงฮว้า อำเภอถูเถื่อและอำเภอดึ๊กเหวะ บางทีราคามะนาวสูงถึง 0.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม นายเลวันนาม หัวหน้าสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทอำเภอเบ๊นลึกเผยว่า ในตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ที่เบ๊นลึกมีผลผลิตมะนาวราว 36,000 ตัน และสำนักงานภาครัฐยังคงให้การสนับสนุนสถานประกอบการและสหกรณ์ต่างๆ ในท้องถิ่นเพื่อแนะนำให้เกษตรกรปลูกมะนาวตามรูปแบบอินทรีย์ต่อไป เพื่อค้ำประกันความปลอดภัยของสินค้าและสร้างความเชื่อมโยงในการจำหน่ายด้วย โดยเฉพาะสนับสนุนผู้ปลูกในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาภัยแล้งและน้ำทะเลซึม
ในปี 2025 ทางจังหวัดได้กำหนดให้มะนาวจะเป็น 1 ใน 4 พืชที่สร้างก้าวกระโดดให้แก่อุตสาหกรรมการเกษตรของจังหวัด โดยถึงขณะนี้ ในพื้นที่ปลูกมะนาวที่จังหวัดลองอาน มีการปลูกมะนาวที่ใช้เทคโนโลยีขึ้นสูงตามมาตรฐาน VietGAP ราว 165.5 เฮกตาร์และมาตรฐาน GlobalGAP อีก 220 เฮกตาร์ ส่วนเกษตรกรก็ได้รับการฝึกอบรมในการผลิตอย่างเป็นมืออาชีพเพื่อพัฒนาแหล่งจัดสรรวัตถุดิบให้แก่ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น อียู อังกฤษ รัสเซีย นิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์และตะวันออกกลาง เป็นต้น ดังนั้น ทางการท้องถิ่นได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรและสหกรณ์ตั้งสำนักงานตัวแทนจำหน่ายในตลาดขายส่งนอกประเทศเวียดนามอย่างเต็มที่ และทางการจังหวัดลองอานยังขอความช่วยเหลือจากผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์ของสถานทูตเวียดนามประจำประเทศต่างๆ และกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิช์เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร นาง ดิงถิเฟืองแคง รองผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดลองอานเผยว่า
“ผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์หลายท่านได้ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนสถานประกอบการลองอานเปิดสำนักงานตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ นอกจากนี้ ทางจังหวัดฯ ก็เป็นสะพานเชื่อมเพื่อช่วยให้การทำธุรกิจของสถานประกอบการได้รับการสนับสนุนจากผู้ช่วยทูตฝ่ายการพาณิชย์ต่อไป โดยเฉพาะในการให้คำปรึกษาด้านนิตินัยเพื่อค้ำประกันให้การส่งออกถูกต้องตามกฎหมายของเวียดนามและประเทศนำเข้า”
จังหวัดลองอานกำลังสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าของมะนาวในตลาดที่มีมาตรฐานสูง การที่สถานประกอบการและสหกรณ์เป็นฝ่ายรุกในการส่งเสริมการค้าเพื่อขยายตลาดจำหน่ายและเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ช่วยให้เกษตรกรและสถานประกอบการลงทุนให้แก่การผลิตเพื่อการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.