การทำระเบียบราชการผ่านระบบวันสต็อปเซอร์วิส (VTV) |
ใน 9 เดือนแรกของปี 2021 ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่การดึงดูดการลงทุนในจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ยังคงบรรลุแผนการที่วางไว้ โดยมีโครงการที่ได้รับใบอนุญาติก่อตั้งใหม่ 39 แห่ง รวมทั้งโครงการเอฟดีไอ 11 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าแผนการที่วางไว้ของปีนี้ คือกว่า 150 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 52 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในเวลาที่ผ่านมา จังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ได้พยายามปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ โดยปรับเปลี่ยนข้อกำหนดที่ยังไม่สอดคล้องกับแนวทางเน้นด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากกว่าเน้นในด้านปริมาณ ซึ่งทางการจังหวัดฯ ได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการดึงดูดการลงทุนในโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีผลลัพธ์ในเชิงบวกอย่างกว้างขวาง ควบคู่กันนั้น ทางการจังหวัดฯ ยังให้คำมั่นแก้ไขอุปสรรคต่างๆโดยเร็วเพื่อให้โครงการเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติอย่างราบรื่น นาย เหงียนกงวิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานวางแผนและการลงทุนเผยว่า “ปัจจุบันนี้ ระเบียบราชการต่างๆเกี่ยวกับการขอใบรับรองการลงทุน หรือการจดทะเบียนประกอบธุรกิจมีติดประกาศในสำนักงานวันสต๊อปเซอร์วิสของจังหวัดฯและบนเว็บไซต์ของสำนักงานฯ นอกจากนี้ ทางการจังหวัดฯ ยังประกาศรายชื่อโครงการลงทุนและระเบียบราชการที่อยู่ภายใต้อำนาจของจังหวัดฯ และติดตามตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อร่วมมือกับนักลงทุนแก้ไขอุปสรรคอย่างทันท่วงที”
ในตลอดกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ทางการจังหวัดฯ ได้อนุญาตให้คณะกรรมการบริหารเขตอุตสาหกรรมเป็นฝ่ายรุกในการรับรองแนวทางการลงทุนในบางโครงการในเขตอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการปฏิรูปด้านระเบียบราชการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนมากขึ้น นาย หวอมิงห์ตุ่ง รองผู้อำนวยการคณะกรรมการบริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ได้ยืนยันว่า “การปฏิรูปดังกล่าวได้ช่วยให้นักลงทุนและสถานประกอบการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ทำให้นักลงทุนพอใจและสามารถดึงดูดนักลงทุนที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีเงินทุนสูงเพื่อเพิ่มแหล่งเงินทุนให้แก่เขตนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ”
การดึงดูดการลงทุนภายใต้การคัดเลือกอย่างเหมาะสมได้ช่วยคัดกรองไม่ให้มีการลงทุนของโครงการที่ไม่เหมาะสม ใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและใช้วัตถุดิบมากเกินไป ซึ่งช่วยให้จังหวัดสามารถสร้างระบบนิเวศที่ดึงดูดสถานประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีเงินทุนหนาและมีชื่อเสียงเข้ามาลงทุน
บ่าเหรียะ หวุงเต่า พัฒนาระบบท่าเรือและโลจิสติกส์ (congthuong.vn) |
ถึงขณะนี้ สถานประกอบการทุกแห่งที่ประกอบธุรกิจในเขตนิคมอุตสาหกรรมต่างมีระบบบำบัดน้ำเสียและระบบตรวจสอบอัตโนมัติ โดยโรงงานที่ก่อสร้างใหม่ต่างใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ติดตั้งอุปกรณ์ที่ลดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมและมีระบบบำบัดน้ำเสียที่มีคุณภาพถึง 100 เปอร์เซนต์ นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้สถานประกอบการมีความมั่นใจในการลงทุน นาย เหงียนแองเจี๊ยด หัวหน้าคณะกรรมการบริหารกลุ่มเขตอุตสาหกรรมบ่าเหรียะ หวุงเต่า เผยว่า “ทางคณะกรรมการบริหารฯ ได้ตรวจสอบการวางแผนและปรับปรุงการวางแผนในเขตนิคมอุตสาหกรรมให้เหมาะสมเพื่อดึงดูดโครงการที่มีคุณภาพสูง ปฏิรูปการส่งเสริมการลงทุนและอัพเดทข้อมูลบนเว็บไซต์ของคณะกรรมการบริหารฯและบริษัทที่ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับการส่งเสริมการลงทุน เราให้ความสนใจถึงการสนับสนุนการผลิตและประกอบการธุรกิจของสถานประกอบการ ช่วยแก้ไขอุปสรรคของสถานประกอบการอย่างทันท่วงทีเพื่อสร้างความเชื่อมันให้แก่นักลงทุน”
ในช่วงปี 2021 -2025 จังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ได้กำหนดเป้าหมายพัฒนาเป็น “จังหวัดที่เข้มแข็งในด้านอุตสาหกรรม ท่าเรือ การท่องเที่ยวและการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง” โดยเน้นแนวทางดึงดูดการลงทุนภายใต้การคัดเลือกที่เหมาะสม คือโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สามารถขยายผลได้สูง มีมูลค่าเพิ่มสูง ไม่ใช้แรงงานเกินความจำเป็นและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนาท่าเรือและบริการโลจิสติกเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรม การค้าและการบริการต่างๆของจังหวัด
เพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ในเวลาข้างหน้า คณะกรรมการประชาชนจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า จะยกระดับทักษะความสามารถในการบริหาร การชี้นำและคำมั่นในการสร้างสรรค์บรรยากาศที่เอื้อให้แก่การพัฒนาของสถานประกอบการและนักลงทุน พร้อมทั้งผลักดันการแก้ไขปัญหาและเวนคืนโครงการที่ปฏิบัติอย่างล่าช้า อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนรายใหม่ จัดการประชุมเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสให้แก่นักลงทุน แสวงหาและเลือกสถานประกอบการและนักลงทุนที่มีศักยภาพ มีประสบการณ์ให้เข้ามาทำการลงทุนด้วยโครงการขนาดใหญ่และผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของจังหวัดฯ./.