จังหวัดด่งนายพัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน (Photo bantuyengiao)
|
จากความได้เปรียบในด้านอุตสาหกรรมที่สามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอเป็นจำนวนมาก ทางการจังหวัดฯยังนำหน้าในการพัฒนาชนบทใหม่ เพราะถ้าเปรียบเทียบกับจังหวัดที่ใกล้เคียง เช่น จังหวัดบ่าเหรียะ -หวุงเต่า จ.บิ่งถวนและจ.เลิมด่งที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทางทะเลและการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนสูง จังหวัดด่งนายมีศักยภาพในด้านนี้ไม่มากนัก จึงต้องหาทางใหม่เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเฉพาะตัว นั่นคือการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยมีการก่อสร้างและเปิดให้บริการเขตท่องเที่ยวเชิงนิเวิศต่างๆ เช่น บิ๋วลอง น้ำตกยางเดี่ยน ลำธารเมอ อุทยานแห่งชาติก๊าดเตียน เป็นต้น ซึ่งใช้เงินลงทุนนับพันล้านด่ง นาง เหงียนเทียนลี้ นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า เธอเลือกเที่ยวด่งนายในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เพราะอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไม่มากและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าสนใจมาก “ถ้าหากเราอยู่อาศัยที่นครโฮจิมินห์ เราหาสถานที่ท่องเที่ยวได้ยากมาก เพราะมีไม่กี่แห่ง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่มาที่นี่ เราได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ได้ลิ้มลองเมนูอาหารท้องถิ่นที่อร่อยและนั่งเรือชมแม่น้ำ เป็นต้น”
จังหวัดด่งนายมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ เช่น มีทั้งป่า ทั้งภูเขา แม่น้ำและลำธาร นอกจากนี้ยังมีทางหลวงหลายสายที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่นใกล้เคียง โดยเฉพาะทางไฮเวย์โฮจิมินห์ – ลองแถ่ง – เหย่าไยและในเร็วๆนี้ จะเปิดให้บริการท่าอากาศยานนานาชาติลองแถ่งและทางด่วนสายต่างๆ ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ในหลายปีมานี้ อัตราการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดด่งนายอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยในช่วงปี 2015-2019 อยู่ที่ร้อยละ 10.5 มียอดรายได้เฉลี่ยกว่า 14 % โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดด่งนายในปี 2018 อยู่ที่ 4 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 2 ล้านล้านด่ง ส่วนในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2019 มีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 2.5 ล้านคน และคาดว่าในปี2019นี้ จะสูงกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน
แม้มีศักยภาพที่หลากหลาย เช่น มีเขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงพักผ่อน การบันเทิง ความเชื่อและวัฒนธรรม แต่เพื่อพัฒนาให้สูงขึ้น ทางการจังหวัดฯยังต้องมีนโยบายส่งเสริมให้เหมาะสมเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่นักลงทุนมากขึ้น นี่คือความคิดเห็นของนาย เหงียนดังนิงห์ ประธานสภากรรมการบริษัทบิ๋วลองจำกัด ที่ทำธุรกิจด้านการลงทุนและพัฒนา “ควบคู่กับการสนับสนุนราคาเช่าที่ดิน ทางการจังหวัดฯ ควรมีนโยบายสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น ภาษีและขั้นตอนระเบียบการเช่าที่ดิน นี่คือมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เราต้องใช้เงินทุน 1 พันล้านด่ง แต่อย่างน้อยที่สุด ต้องรอถึง 2-3 ปีหรือมากกว่าคือ 5-7 ปีจึงจะเห็นกำไรได้ ซึ่งการลงทุนนี้ไม่เห็นผลเร็วเหมือนภาคเศรษฐกิจอื่นๆ”
จากการมีความหลากหลายด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งโบราณคดีและเป็นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อยจำนวนมาก ทางการจังหวัดฯ สามารถใช้ความได้เปรียบนี้เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน โดยตั้งแต่ปี 2017 ทางการจังหวัดฯได้ตั้งเป้าว่า จะพัฒนาการท่องเที่ยวให้เป็นภาคสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมผ่านการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบ แต่เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ทางการจังหวัดฯ จะต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อพัฒนาเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่น่าเที่ยวอันดับแรกๆของเวียดนาม.