(VOVworld) - ในหลายปีมานี้ จังหวัดด่งนายตั้งเป้าหมายว่า จะดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่เรื่องยากเนื่องจากจังหวัดด่งนายเป็นหนึ่งในจังหวัดด้านการดึงดูดเงินเอฟดีไอในระดับแถวหน้าผ่านการมีแนวทางดึงดูดการลงทุนอย่างเหมาะสม
จังหวัดด่งนายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอย่างเหมาะสม
|
ปัจจุบัน จังหวัดด่งนายเป็นหนึ่งในจังหวัดแถวหน้าในการดึงดูดเงินเอฟดีไอ โดยตั้งแต่ปี 2006 ทางการจังหวัดฯได้มีแนวทางดึงดูดโครงการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯได้กำหนดด้านและเงื่อนไขที่เป็นรูปธรรมในการดึงดูดการลงทุน โดยเฉพาะระงับการดึงดูดโครงการที่อาจก่อให้เกิดปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อมถึงแม้โครงการดังกล่าวจะช่วยแก้ไขปัญหางานทำก็ตาม เช่น อุตสาหกรรมฟอกหนังและการย้อมสี เป็นต้น นาย มายวันเญิน รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดด่งนายได้เผยว่า ทางการจังหวัดฯให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อโครงการที่เอื้อให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ เอื้อประโยชน์ต่อทั้งรัฐ สังคม ผู้ใช้แรงงานและนักลงทุน
“โครงการที่เอื้อประโยชน์ต่อรัฐคือโครงการที่ต้องจัดเก็บภาษีเข้างบประมาณแผ่นดิน ส่วนโครงการที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคมคือโครงการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อีกทั้งช่วยสร้างงานทำ ยกระดับทักษะและฝีมือให้แก่ผู้ใช้แรงงานและต้องเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนอีกด้วย”
ทั้งนี้ ในการดึงดูดการลงทุน จังหวัดด่งนายให้ความสำคัญต่อคุณภาพแหล่งเงินเอฟดีไอ โดยเน้นการเบิ่กจ่ายเงินลงทุนมากกว่าจำนวนเงินทุนจดทะเบียน หลังจากที่สถานประกอบการได้รับใบอนุญาตการลงทุน ทางการจังหวัดฯจะเฝ้าติดตามและเร่งรัดให้ปฏิบัติโครงการตรงตามกำหนดเพื่อคํ้าประกันการเบิ่กจ่ายเงินลงทุนอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ในหลายปีมานี้ การเบิกจ่ายเงินลงทุนของสถานประกอบการเอฟดีไอในจังหวัดด่งนายอยู่ในระดับสูงคือร้อยละ 70 ของยอดเงินลงทุนจดทะเบียน
จากแนวทางการดึงดูดเงินเอฟดีไออย่างเหมาะสม จังหวัดด่งนายได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่สะดวก โดยแต่ละปี คณะกรรมการจังหวัดจะจัดการพบปะและสนทนากับนักลงทุนเอฟดีไอ รวม 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความพยายามของทางการท้องถิ่นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและแก้ไขอุปสรรค์ให้แก่สถานประกอบการ อีกทั้งสร้างภาพลักษณ์บรรยากาศการลงทุนที่น่าสนใจ โดยในการพบปะกับสถานประกอบการเอฟดีไอ นาย เจิ่นวันหวิง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดด่งนายได้ยืนยันว่า“ทัศนะของผู้บริหารจังหวัดและท้องถิ่นต่างๆคือทำการปฏิรูประเบียบราชการให้มีความกระทัดรัดควบคู่กับการสนับสนุนสถานประกอบการที่เข้ามาลงทุนในจังหวัดและหวังว่า สถานประกอบการจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาต่างๆเพื่อให้ทางการท้องถิ่นมีมาตรการแก้ไข”
สำหรับการปฏิรูประเบียบราชการ คณะกรรมการบริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดด่งนายได้ปฏิบัตินโยบายวันสต็อปเซอร์วิสเพื่อลดเวลาด้านระเบียบราชการลงเหลือร้อยละ 60 – 70 เมื่อเทียบกับกำหนดการ
เมื่อปี 2016 จังหวัดด่งนายยังคงเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่แถวหน้าในการดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอ รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีโครงการจดทะเบียนใหม่ 100 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ โครงการที่เพิ่มเงินทุน 98 โครงการ รวมเงินลงทุน กว่า 826 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ตัวเลขดังกล่าวยังนับว่าตํ่าเมื่อเทียบกับศักยภาพของจังหวัด แต่เป็นโครงการลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของท้องถิ่นและแสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ถูกต้องของจังหวัดด่งนายในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ.