 ในเดือนมกราคม การนำเข้าและส่งออกสินค้าบรรลุ 1หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (Photo: Chinhphu.vn) |
ตามรายงานของกระทรวงวางแผนและการลงทุน สถานการณ์เศรษฐกิจเวียดนามใน 3 เดือนแรกของปี 2018 ยังอยู่ในแนวโน้มที่น่ายินดีเหมือนเมื่อปลายปี 2017 โดยมีสัญญาณที่น่ายินดีต่างๆ เช่น เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ราคาและภาวะเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ดัชนีการเงินเป็นบวก ตลาดเงินตราจากต่างประเทศและดอกเบี้ยมีเสถียรภาพ มีสภาพคล่อง รายรับและรายจ่ายเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตลาดหลักทรัพย์มีการขยายตัวอย่างยั่งยืน การดึงดูดเงินทุนอยู่ในระดับสูงในขณะที่การเบิกจ่ายเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและมูลค่าการนำเข้าและส่งออกอยู่ในระดับที่น่ายินดี ในไตรมาสแรกของปี 2017 การขยายตัวของจีพีพีอยู่ที่ร้อยละ 5.1 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาแต่ในไตรมาสแรกของปีนี้ การขยายตัวของจีดีพีได้บรรลุร้อยละ 7.38 เท่ากับอัตราการขยายตัวในครึ่งหลังของปี 2017 ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆได้ปฏิบัติตามมติ 01 ที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่สะท้อนผ่านสาส์นของนายกรัฐมนตรีที่ว่าไม่ปล่อยให้เกิดภาวะ “ไม่พยายามตั้งแต่ต้นปี ปลายปีถึงต้องลำบากเร่งรีบ” ดังนั้นในไตรมาสแรกนี้ ท้องถิ่นต่างๆ เช่น นครโฮจิมินห์ กรุงฮานอย จังหวัดบั๊กนิงห์และจังหวัดท้ายเงวียนจึงมีอัตราการขยายตัวสูง โดยการส่งออกสินค้าต่างๆ เช่น ข้าว ผลไม้ สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปต่างอยู่ในระดับสูงและที่น่าประทับใจ ที่น่ายินดีคือคุณภาพการขยายตัวได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น นายเหงียนดิ่งกุง หัวหน้าสถาบันบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางให้ข้อสังเกตว่า “จากการปฏิบัติตามมติ 01 ของรัฐบาล สถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีเมื่อเทียบกับปีก่อน นั่นคือ ใช้เวลาสั้นกว่าและมีความมุ่งเน้นมากขึ้น ควบคู่กันนั้น รัฐบาลได้มอบหมายหน้าที่ที่เป็นรูปธรรม 242 หน้าที่โดยมีกำหนดกรอบเวลาที่ต้องเสร็จสิ้นภายใต้คำขวัญในการปฏิบัติมติคือ “มีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ””
อัตราการขยายตัวในไตรมาสแรกของปี 2018 นี้อยู่ในระดับนี้ได้ถูกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว องค์กรต่างๆภายในประเทศรายงานว่า การส่งออกของกลุ่มสถานประกอบการภายในประเทศและสถานประกอบการที่ใช้เงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอดีไอต่างเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ การขยายตัวของกลุ่มสถานประกอบการภายในประเทศสูงกว่าของกลุ่มสถานประกอบการเอฟดีไอ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสถานประกอบการเวียดนาม ใน 3 เดือนแรกของปี 2018 มีสถานประกอบการกว่า 26,000 แห่งได้รับการก่อตั้ง ซึ่งมากที่สุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงการแก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการ นายหวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามเผยว่า “การลดขั้นตอนระเบียบราชการถูกเสนอไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน โดยรัฐบาลได้ประกาศมติ คำสั่งและโครงการปฏิบัติต่างๆ แต่ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่รัฐบาลมีความตั้งใจสูงในการปฏิบัติและประสบผลที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ผมคิดว่า การที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้ว่า ใน 1-2 ปีข้างหน้า ทุกกระทรวงและหน่วยงานต้องลดเงื่อนไขการประกอบธุรกิจและระเบียบราชการอย่างน้อย 1ใน3 ถึง1ใน2 นั้นถือเป็นมาตรการแก้ไขที่เป็นก้าวกระโดด โดยเฉพาะในเวลาที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เป็นผู้เดินหน้าในการลดระเบียบราชการ ผมคิดว่าในเวลาข้างหน้า มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะทำได้”
แม้ในไตรมาสแรก เวียดนามได้บรรลุอัตราการขยายตัวที่น่าประทับใจ แต่รัฐบาลยังกำชับให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆเกาะติดสถานการณ์เศษฐกิจภายในประเทศ ภูมิภาคและโลกอย่างใกล้ชิด เกาะติดสถานการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคในด้านธนาคาร การเงิน หลักทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น บนเจตนารมณ์คือ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น เราก็ต้องคำนึงถึงปีต่อๆไปและเป็นฝ่ายรุกเพื่อเตรียมมาตรการสำรองสำหรับรับมือกับสถานการณ์ลำบากเพื่อให้เศรษฐกิจเวียดนามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.