คณะฯได้พบปะกับนายเหวียน ซวน กี๊ เลขาธิการพรรควาขาจ.กว๋างนิงห์ (สถานทูตไทย ณ กรุงฮานอย) |
คณะฯได้พบปะกับนายเหวียน ซวน กี๊ เลขาธิการพรรควาขาจ.กว๋างนิงห์ โดยเอกอัครราชทูตฯ ชื่นชมการควบคุมสถานการณ์โควิดของเวียดนามและ จ.กว่างนิงห์ รวมทั้งการบริหารจังหวัดที่ทำให้ได้รับการประเมิน Provincial Competitiveness Index (PCI) อันดับ ๑ ติดต่อกันถึง ๓ ปี ซึ่งเลขาธิการพรรคฯ แจ้งว่า ปัจจัยความสำเร็จดังกล่าว มาจากการที่จังหวัดและผู้บริหารในทุกสมัยตั้งเป้าหมายในการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชนที่เข้ามาลงทุนในจังหวัดฯ และยืนยันที่จะสนับสนุนภาคเอกชนไทยใน จ.กว่างนิงห์อย่างเต็มที่ ขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมผลักดันการดำเนินงานและการลงทุนของบริษัทไทยให้ประสบความสำเร็จต่อไป
เอกอัครราชทูตฯ ประสงค์ไปเยี่ยมชมโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาชั้นต้น หุ่ง ทั้ง เมืองฮาลอง ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนที่อยู่ในเครือข่ายของโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเห็นว่า ประเทศไทยและ จ.กว่างนิงห์สามารถส่งเสริมความร่วมมือด้านอื่น ๆ ได้อีกหลายด้าน เช่น การศึกษา การท่องเที่ยว วัฒนธรรม เป็นต้น
ส่วนในการประชุมหารือกับนายบุ่ย วัน คั้ง รองประธานคณะกรรมการประชาชน และผู้บริหารของจังหวัดฯ คณะฯได้รับทราบข้อมูลและศักยภาพทางเศรษฐกิจ ได้แก่ เขตเศรษฐกิจ พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ โครงสร้างพื้นฐาน เช่น ทางด่วนระหว่างเวินโด่น-ม้งก๋าย ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะลดระยะเวลาการเดินทางและขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวได้มาก ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่า ยังสามารถพัฒนาความร่วมมือกันได้อีกมาก สถานเอกอัครราชทูตฯ ยินดีในการสนับสนุนเชิญชวนให้นักลงทุนไทยเข้าไปสำรวจลู่ทางการค้าการลงทุนใน จ.กว่างนิงห์ เช่น แผนการนำคณะภาคเอกชนไทยเดินทางเยือน จ.กว่างนิงห์ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมในระหว่างการประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (JCR) ครั้งที่ ๔ ที่อยู่ระหว่างการเตรียมการ การกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง จ.กว่างนิงห์กับจังหวัดในประเทศไทย รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในกรอบสามเหลี่ยมมรดกโลก บ้านเชียง-หลวงพระบาง-ฮาลอง
เอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญผู้บริหารจังหวัดเยือนประเทศไทย และเข้าร่วมโครงการเชื่อมสัมพันธ์ผู้นำรุ่นใหม่ ไทย-เวียดนาม (Emerging Leaders Project) เพื่อสร้างเครือข่ายและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย-เวียดนาม ในโอกาสต่อไป