(VOVworld) - การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม-ไทยครั้งที่3 ณ ประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมถือเป็นกิจกรรมที่โดดเด่นที่สุดในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม-ไทยครั้งที่3 ณ ประเทศไทย
|
ในการนี้ ท่าน เหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ได้เห็นพ้องกันในการวางแนวทางความร่วมมือใหญ่ๆในเวลาที่จะถึงเพื่อทำให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วน ยุทธศาสตร์เวียดนาม-ไทยมีความลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศยังหารืออย่างกว้างลึกเกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่ต่างให้ความสนใจ พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งถึงทัศนะที่ถูกระบุในแถลงการณ์ร่วมของประธานการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 26 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยืนยันถึงคำมั่นที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดและกับประเทศอาเซียนอื่นๆเพื่อผลักดันการแปรเป้าหมายจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปลายปี 2015 ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและในระยะต่อไป พร้อมทั้งธำรงบทบาทเป็นผู้นำและศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหายุทธศาสตร์ในภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความจำเป็นของการที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ และสอดคล้องกับกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ผลักดันการสนทนาและการทาบทามเพื่อบรรลุระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือ ซีโอซีโดยเร็ว
หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือฉบับต่างๆ ประกอบด้วย แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม-ไทยครั้งที่ 3 บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านแรงงาน บันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับการจ้างแรงงาน บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างจังหวัดลองอาน ประเทศเวียดนามกับจังหวัดตราด บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างจังหวัดกอนตุมกับจังหวัด อุบลราชธานี ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี ทั้งสองฝ่ายได้จัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเยือนประเทศไทยอย่าง เป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงและผลการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมเวียดนาม-ไทยครั้งที่ 3 โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุงได้เผยว่า “จนถึงขณะนี้ ไทยเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอาเซียน ปี 2015 มีความเป็นไปได้สูงที่มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศจะบรรลุ 1 หมื่น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13-15 เมื่อเทียบกับปี 2014 ดังนั้น มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะสามารถบรรลุ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020 ปัจจุบัน ไทยอยู่อันดับที่ 10 ในจำนวน 103 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนโดยตรงในเวียดนาม รวมยอดเงินลงทุนประมาณ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เวียดนามจะอำนวยความสะดวกเพื่อให้นักลงทุนไทยประสบความสำเร็จในการลงทุนใน เวียดนามให้ประสบความสำเร็จและหวังว่า ไทยจะกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ลงทุนมากที่สุดในเวียดนามในอนาคต”
นักธุรกิจไทยมาเวียดนามแสวงหาลู่ทางลงทุนเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยมี 270 โครงการ แต่เวียดนามเสียเปรียบดุลการค้าเนื่องจากนำเข้าวัตถุดิบและอุปกรณ์ผลิตเพื่อการส่งออก ส่วนสถานประกอบการเวียดนามส่งออกเครื่องจักร เหล็กและโทรศัพท์ไปยังไทย สถานประกอบไทยถือว่า เวียดนามเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากร 90 ล้านคน มีเสถียรภาพทางการเมือง มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีค่าจ้างแรงงานถูกกว่าไทยถึงครึ่งหนึ่ง
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ณ ประเทศไทย ได้มีการจัดการประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการการค้าร่วมไทย – เวียดนามภายใต้อำนวยการของพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทยและนายหวูฮวีหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เน้นหารือถึงมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันกิจกรรมส่งเสริมการ ค้า โดยไทยจะสนับสนุนเวียดนามจัดงานแสดงสินค้าเวียดนามในไทย ร่วมมือแก้ไขอุปสรรคและผลักดันการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะผลไม้และดอกไม้ การเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งระหว่าง 2 ประเทศในกรอบข้อตกลงความร่วมมือด้านการขนส่งข้ามแดนอนุภูมิภาคแม่โขงขยายวง จัดทำกลไกส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนและพิจารณาการจัดตั้งสภาธุรกิจ เวียดนามขไทยและอนุมัติแผนปฏิบัติการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการค้าและการ ลงทุนระยะปี 2015 – 2020
ประชาชนที่มาชมงาน
|
สัปดาห์ไทย-งานนิทรรศการแสดงสินค้าในนครโฮจิมินห์ได้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-12 กรกฎาคมณ โดยมีบริษัทกว่า 300 แห่งซึ่งเป็นผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้ส่งออกและตัวแทนจำหน่ายจากไทยเข้าร่วม และมีการออกบูธแนะนำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในด้านสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องสำอาง ดูแลสุขภาพและเสริมความงามและอะไหล่รถยนต์ ซึ่งจากการจัดกิจกรรมนี้ ผู้บริโภคเวียดนามจะมีโอกาสเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ส่วนสถานประกอบการได้มีโอกาสแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีๆ มีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างเวียดนามกับไทยในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังผลักดันความร่วมมือทั้งทวิภาคีและพาหุภาคี
บริษัทขนส่งจำกัดของไทยหรือ บขส.ได้มีแผนการเปิดให้บริการรถโดยสารระหว่างไทย ลาวและเวียดนาม โดยเปิดให้บริการรถโดยสารระหว่างจังหวัดนครพนมของไทยกับจังหวัดห่าติ๊งของเวียดนามไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วนของลาว บขส.กำลังเปิดให้บริการรถโดยสาร 12 สายไปยังลาวและกัมพูชาและมีแผนที่จะเปิดให้บริการรถโดยสารไปยังพม่า
นาย โงห่าท้าย รองผู้อำนวยการใหญ่สำนักข่าวเวียดนาม (ซ้าย) และนาย จรูญ ไชยศร
รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ (Photo:vietnamplus.vn)
|
สำหรับข่าวปิดท้ายรายการของเราวันนี้คือข่าวเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสำนักข่าวเวียดนามกับกรมประชาสัมพันธ์ไทย เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ในการประชุมคณะกรรมการเทคนิกระหว่างสำนักข่าวเวียดนามและกรมประชาสัมพันธ์ ไทย ณ กรุงเทพฯภายใต้อำนวยการของนาย โงห่าท้าย รองผู้อำนวยการใหญ่สำนักข่าวเวียดนามและนาย จรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ทั้ง 2 ฝ่ายได้เห็นพ้องกันที่จะกระชับความ สัมพันธ์ร่วมมือเพื่อภารกิจการประชาสัมพันธ์ในประชาคมอาเซียน มีส่วนร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศและมุ่งสู่การฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับไทยในปีหน้า ในเวลาที่ผ่านมา สำนักข่าวเวียดนามกับกรมประชาสัมพันธ์ไทยได้แลกเปลี่ยนด้านวิชาการอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังแลกเปลี่ยนคลิปข่าวและรายการโทรทัศน์ ซึ่งเป็นด้านที่สำนักข่าวเวียดนามกำลังเน้นพัฒนา.