ร่วมกันปลูกโสม ( baokontum.com.vn)

เมื่อปี 2017 กลุ่มสตรีปลูกโสมรวมสมาชิก 57 คนในตำบลที่ยากจนสองแห่งคือเหมื่องฮองและหงอกลิงห์ในอำเภอดั๊กกเล จังหวัดกอนตุมได้รับการก่อตั้ง ภายใต้การสนับสนุนของสมาพันธ์สตรีจังหวัดและอำเภอในการประชาสัมพันธ์ ทำให้โสมที่ปลูกขายได้ทั้งหมด นอกจากนี้ จากการค้ำประกันของสมาพันธ์ฯเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดและคุณภาพ โสมที่ทางกลุ่มปลูกสามารถขายได้ในราคาสูงกว่าโสมทั่วไปที่ขายในตลาด 2 เท่า

จากความสำเร็จของรูปแบบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพดังกล่าว ถึงปี 2021 มีสตรีสมัครเข้าร่วมกลุ่มฯ เพิ่มอีก 60 คน และขยายพื้นที่ปลูกโสมรวมกว่า 12 เฮกตาร์ นาง ฝ่ามถิไม รองประธานสมาพันธ์สตรีอำเภอดั๊กกเล ได้กล่าวว่า ผลสำเร็จที่น่าชื่นชมของรูปแบบนี้คือสามารถดึงดูดการเข้าร่วมของสตรีชนกลุ่มน้อย          “ครอบครัวที่ปฏิบัติรูปแบบนี้มีรายได้ที่มั่นคง แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือสตรีได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านความคิด โดยเมื่อก่อนมักจะรอคอยการช่วยเหลือจากรัฐ แต่เดี๋ยวนี้ได้เป็นฝ่ายรุกขอให้ทางสมาคมฯปฏิบัติรูปแบบนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นฝ่ายรุกของพวกเขาในการร่วมมือกับสมาคมฯจัดตั้งกลุ่มและกู้เงินเพื่อลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจ”

สิ่งที่เหมือนกันในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพของสตรีชนกลุ่มน้อยในจังหวัดกอนตุมคือความคิดสร้างสรรค์ในการผลิต จากการปลูกผักและผลไม้ที่คุ้นเคยแต่พวกเขาได้ทำตามรูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ นาง เหงียนถิถวี่แอง จากหมู่บ้านหมายเลข 3 ตำบลดั๊กมาร์ อำเภอดั๊กห่า ได้ประสบความสำเร็จในการผลิตกาแฟสะอาด โดยคั่วเองและจำหน่ายในตลาดใหญ่สองแห่งคือจังหวัดเหงะอานและนครโฮจิมินห์ ถึงแม้ราคากาแฟจะลดลงแต่รายได้จากไร่กาแฟรวมพื้นที่กว่า 8 เฮ็กตาร์ของเธอและสตรีในกลุ่มไม่เพียงแต่ไม่ได้รับผลกระบท หากยังมีกำไรสูงกว่าเนื่องจากกาแฟมีคุณภาพดีและได้รับความนิยมจากลูกค้าจำนวนมาก          “กาแฟของเราไม่เหมือนกับกาแฟชนิดอื่นๆ เมื่อดื่มจะสัมผัสได้ถึงรสขมอ่อนๆ และตามด้วยรสหวาน อีกทั้งกลิ่นก็หอมมาก เมื่อฉันเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ทุกคนในหมู่บ้าน รวมถึงแรงงานที่ฉันจ้างต่างบอกว่าไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับการปลูกกาแฟแบบอินทรีย์ แต่ฉันอยากพิสูจน์ให้เห็นว่า กาแฟอินทรีย์มีความแตกต่างกับกาแฟอื่นๆ”

โสมที่ทางกลุ่มปลูกสามารถขายได้ในราคาสูงกว่าโสมทั่วไปที่ขายในตลาด 2 เท่า ( baokontum.com.vn)

ปัจจุบันนี้ สตรีในสโมสรกว่า 200 คนในจังหวัดกอนตุมได้รับการสนับสนุนกว่า 1 พัน 5 ร้อยล้านด่งเพื่อทำธุรกิจสตาร์ทอัพ นอกจากนี้ พวกเขาก็กู้เงินเพิ่มเติมอีก 9 พันล้านด่งเพื่อทำธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยหลายคนได้ประสบความสำเร็จและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น โครงการปลูกกาแฟในตำบลมังแก่ง อำเภอกอนกลง การปลูกสมุนไพรในตำบลเหมื่องฮอง ตำบล หงอกลิงห์ ตำบลมังรีและตำบลหงอกเลในอำเภอดั๊กกเลและอำเภอตูเมอโรง รูปแบบการปลูกผักปลอดสารพิษของสตรีในอำเภอดั๊กโต เป็นต้น นาง เจิ่นถิฟองลาน รองประธานสหพันธ์สตรีจังหวัดกอนตุมเผยว่า ทางสหพันธ์จะเดินพร้อมกับสตรีเพื่อให้มีสมาชิกประสบความสำเร็จมากขึ้น