ตั้งใจนำชมรมสถานประกอบการดิจิทัลของเวียดนามสู่ตลาดโลก

Huyền Nga
Chia sẻ
(VOVWORLD) -เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติ “โครงการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติถึงปี 2025 และกำหนดแนวทางถึงปี 2030” โดยย้ำถึงการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลในทุกด้าน แต่เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ จำเป็นต้องขยายความร่วมมือกับประเทศที่มีการพัฒนาในด้านนี้ ดังนั้น การสนับสนุนชมรมสถานประกอบการดิจิทัลเวียดนาสู่ตลาดโลกคือหนึ่งในหน้าที่สำคัญที่กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์เวียดนามเน้นปฏิบัติในปัจจุบัน
ตั้งใจนำชมรมสถานประกอบการดิจิทัลของเวียดนามสู่ตลาดโลก - ảnh 1นาย ฟานเติม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ( nhadautu.vn)
 
 

ในหลายปีมานี้ สถานประกอบการดิจิทัลเวียดนามได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านจำนวนและขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยได้จัดสรรผลิตภัณฑ์ บริการและมาตรการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัลของประเทศ มีส่วนร่วมลดช่องว่างการพัฒนาด้านดิจิทัลกับต่างประเทศ ร่วมกับชมรมสถานประกอบการระหว่างประเทศสร้างสรรค์โลกดิจิทัล นาย ฟานเติม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้เผยว่า

“หลังจากที่วิกฤตโควิด -19 ได้รับการควบคุม ความต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนับวันสูงขึ้นในทั่วโลก ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล แต่ช่องว่างด้านความสามารถในการใช้และเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของประชาชนในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนาและด้อยพัฒนายังคงเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ นี่คือโอกาสให้สถานประกอบการเทคโนโลยีดิจิทัลเวียดนามสามารถขยายตลาด ใช้เทคโนโลยีของบริษัทตนเพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์โลกดิจิทัล”

เพื่อให้โลกรับรู้ว่าเวียดนามว่าไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางเท่านั้นหากยังเป็นสถานที่ผลักดันผลิตภัณฑ์ Make in Vietnam สู่ตลาดโลกอีกด้วย ในหลายปีที่ผ่านมา สถานประกอบการดิจิทัลเวียดนามได้เข้าสู่ตลาดโลกด้วยผลสำเร็จต่างๆ เช่น เครือบริษัท Viettel ได้ลงทุนในต่างประเทศและมีรายได้กว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 เครือบริษัท FPT ได้จัดสรรมาตรการเทคโนโลยีสารสนเทศและการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลให้แก่บรรดาประเทศพัฒนา เช่น ญี่ปุ่นและสหรัฐ ซึ่งมีรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ส่วนรายได้ในการส่งออกเทคโนโลยีสารสนเทศและให้บริการในด้านนี้ในปี 2022 ของสถานประกอบการ 1,000 แห่งได้บรรลุกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะเดียวกัน คาดว่า ทั่วเวียดนาม มีสถานประกอบการประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศกว่า 40,000 แห่งและมีวิศวกรสารสนเทศประมาณ 550,000 คน ซึ่งช่วยให้สถานประกอบการเวียดนามมีความมั่นใจว่ามีความสามารถอย่างเพียงพอเพื่อมุ่งสู่ตลาดโลก ดังนั้น หนึ่งในหน้าที่สำคัญในปีนี้ที่กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์เน้นปฏิบัติคือ สนับสนุนชมรมสถานประกอบการดิจิทัลเวียดนามในการเจาะตลาดโลก โดยมาตรการต่างๆ เช่น สนับสนุนสถานประกอบการเทคโนโลยีดิจิทัลเวียดนามที่กำลังประกอบธุรกิจในต่างประเทศหรือขยายการลงทุนในต่างประเทศ จัดคณะผู้แทนสถานประกอบการดิจิทัล จัดฟอรั่มสถานประกอบการดิจิทัลในประเทศและต่างประเทศเพื่อจัดสรรข้อมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ ผลักดันการเชื่อมโยงและสถาปนาความสัมพันธ์กับสำนักงานที่เกี่ยวข้องและสถานประกอบการประเทศต่างๆ สร้างสรรค์ฐานข้อมูลเกี่ยวกับบรรยากาศ นโยบายและโอกาสการลงทุนในประเทศต่างๆ จัดกลุ่มให้ปรึกษาเพื่อแก้ไขและตอบคำถามต่างๆ ของสถานประกอบการได้อย่างรวดเร็ว

ตั้งใจนำชมรมสถานประกอบการดิจิทัลของเวียดนามสู่ตลาดโลก - ảnh 2ฟอรั่มดิจิทัลเวียดนาม – ออสเตรเลีย ณ เมืองซิดนีย์

ในฟอรั่มดิจิทัลเวียดนาม ออสเตรเลีย ณ เมืองซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้ประสานงานกับหุ้นส่วนออสเตรเลียผลักดันการเชื่อมโยงและสนับสนุนสถานประกอบการหารือกันโดยตรงและสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือเพื่อพัฒนาและจัดสรรมาตรการของสถานประกอบการเวียดนามให้แก่ตลาดออสเตรเลีย โดยหุ้นส่วนต่างๆในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่มีจุดแข็งในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลในการให้บริการสาธารณะอาจกลายเป็นหุ้นส่วนที่ช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล นาย Ben Seymour ซึ่งเป็น CEO ของกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์อัจฉริยะ Modica กล่าวว่า

“เราเชื่อว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีพัฒนาและแรงงานในด้านนี้ที่พร้อมเพรียง พร้อมทั้งมีบริษัทเทคโนโลยีมากมาย โดยมีสถานประกอบการหลายแห่งได้ประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในตลาดออสเตรเลีย ดังนั้น ผมคิดว่า นี่เป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเวียดนามก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราเพราะเราเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ การที่สามารถดึงดูดผู้ที่มีทักษะความสามารถจะช่วยให้เวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อเรา”

เช่นเดียวกับนาย Ben Seymour นาย Scott Minehane ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของบริษัทให้คำปรึกษา Windsor Place ของออสเตรเลียให้ข้อสังเกตว่า

“เวียดนามมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอย่างดีในตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เวียดนามได้บรรลุในช่วงการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศได้ช่วยผลักดันการผลิต การบริการและอุตสาหกรรม คิดว่า จะมีโอกาสให้สถานประกอบการออสเตรเลียเข้าร่วมกระบวนการนี้ เวียดนามกำลังพัฒนาและกระบวนการนี้จะช่วยให้ออสเตรเลียขยายการเชื่อมโยงในภูมิภาค”

หลังช่วงการระบาดของโควิด -19 และความต้องการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทั่วโลก สถานประกอบการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของเวียดนามกำลังมีโอกาสมากเพื่อนำความรู้และเทคโนโลยีดิจิทัลของเวียดนามไปสู่ตลาดโลก ปัจจุบันนี้ อินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีดิจิทัลนับวันมีบทบาทสำคัญแต่ยังมีประชากรโลกร้อยละ 49 หรือประมาณ 4 พันล้านคนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต นี่คือทั้งโอกาสและความรับผิดชอบของเวียดนามเพื่อมีส่วนร่วมต่อการลดช่องว่างในด้านดิจิทัล สร้างสรรค์อนาคตแห่งดิจิทัลที่ยั่งยืน ทั้งในเวียดนามและทั่วโลก ในความพยายามนั้น จะมีบทบาทสำคัญของรัฐบาลเวียดนามในการเชื่อมโยง เดินพร้อมและสนับสนุนให้สถานประกอบการได้หารือโดยตรงและสร้างความสัมพันธ์ร่วมมือเพื่อพัฒนาและจัดสรรผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสถานประกอบการเวียดนามให้แก่ตลาดโลก.

Feedback