ปัจจุบัน ในหมู่บ้านของชนเผ่าม้งที่อำเภอเวินโห่และในชุมชนหลายแห่งในจังหวัดเซินลายังคงอนุรักษ์การละเล่นพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าม้งหลายประเภท เช่น การโยนลูกช่วง การตี ตู่นู โดยเฉพาะการเล่นตีขนไก่ ถือเป็นการละเล่นอย่างหนึ่งที่หนุ่มสาวนิยมเพราะจะมีการจับคู่กันในการเล่น
 ไม้ตีขนไก่ |
การตีขนไก่มีลักษณะคล้ายตีแบดมินตันแต่ใช้อุปกรณ์การเล่นต่างกัน โดยลูกขนไก่ต้องทำจากขนส่วนปีกของไก่ตัวผู้ ซึ่งต้องถอนขนปีกก่อนนำไก่ไปลวกน้ำร้อนเพื่อถอนขนไปทำอาหารเพราะขนปีกถือเป็นส่วนที่สวยงามที่สุด ส่วนหัวก๊อกทำจากท่อนไผ่เล็กๆขนาด3-5เซนติเมตรเพื่อใช้ปักขน3-5อัน ส่วนไม้ตีทำจากไม้เนื้ออ่อนขนาดกว้าง20เซนติเมตร ยาว25เซนติเมตร และมีก้านจับยาว10เซนติเมตร การเล่นเกมส์ตีขนไก่มักจัดในพื้นที่กว้างแต่ต้องไม่มีลม ซึ่งตามที่ผู้สูงอายุในหมู่บ้านได้เล่านั้นเมื่อก่อนการละเล่นนี้เป็นเกมส์สำหรับสาวๆเท่านั้น นาย Giàng A Hòa ชาวตำบลล้องลวง อำเภอเวินโห่เผยว่า“การตีขนไก่มีสองแบบคือเล่นคู่ชายหญิงกับเล่นหมู่ โดยจะแบ่งเป็นสองทีมชายและหญิง ด้วยกติกาคือจะนับคะแนนของแต่ละฝ่ายหลังจากเล่นกันหลายรอบถ้าฝ่ายไหนคะแนนน้อยกว่าก็แพ้เกมส์และต้องร้องเพลงหรือต้องปฏิบัติตามสิ่งที่สองฝ่ายได้ตกลงกันก่อน แต่ถ้าเป็นการเล่นสังสรรค์เพื่อหาคู่ระหว่างหนุ่มสาวก็มักจะนำไม้ตีและขนลูกขนไก่ของตัวเองไปหาคู่เล่นด้วยกัน จากการเข้าร่วมการเล่นเกมส์ถ้าเห็นว่าชอบพอกันสองฝ่ายจะให้โอกาสพบปะกันในครั้งต่อไปเพื่อเพิ่มความเข้าใจในนิสัยใจคอจนมีหลายคู่ได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาอย่างมีความสุข”
สำหรับชุมชนเผ่าม้งการเล่นตีขนไก่มิใช่เป็นการละเล่นพื้นบ้านตามประเพณีเท่านั้นหากเป็นอีกรูปแบบสังสรรค์หาคู่ของหนุ่มสาวชาวม้งเมื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยในงานถ้าหากฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงพบคนที่ชอบใจก็ชวนเล่นตีขนไก่สองคนเพื่อมีโอกาสพูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น นาย ชาวบ้านฮัวตาด อำเภอเวินโห่ เผยว่า“คนเผ่าม้งเราจะจัดกิจกรรมละเล่นพื้นบ้านตามประเพณีในวันงานชุมชนต่างๆรวมทั้งการเล่นตีขนไก่ ในระหว่างการเข้าร่วมงานเรายังเป่าแคนเล่นดนตรีเพื่อสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน การละเล่นพื้นบ้านนี้ยังคงได้รับการจัดขึ้นตามแบบดั้งเดิม ซึ่งระหว่างการเล่นถ้าพบคนที่ชอบหนุ่มๆก็จะหาโอกาสเชิญสาวๆร้องเพลงโต้ตอบ เมื่อฝ่ายชายร้องเพลงบอกรักฝ่ายหญิงก็จะร้องตอบรับเพื่อแสดงความตกลงหรือไม่ตกลง”
สำหรับชุมชนเผ่าม้งในเขตเขาทางเหนือของเวียดนาม แม้ชีวิตความเป็นอยู่ยังมีความลำบากแต่เมื่อถึงตรุษเต๊ตประเพณีหรือในงานเทศกาลต่างๆชาวบ้านก็จะจัดการละเล่นพื้นบ้านอย่างหลากหลายรูปแบบเพื่อความสนุกสนานและให้กำลังใจกันหลังจากต้องทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และยังเป็นการมีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่ดีงามของชนเผ่าตนให้คงอยู่ต่อไป./.