ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เหงียนถิกิมเงิน |
เอพีพีเอฟครั้งที่ 26 ได้อนุมัติเอกสาร 17 ฉบับด้วยความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในระดับสูงของคณะผู้แทนรัฐสภาสมาชิก ที่น่าสนใจคือแถลงการณ์ฮานอยเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนรัฐสภาเอเชียแปซิฟิก ที่ประชุมยังรับรู้การสนับสนุนของรัฐสภาของประเทศสมาชิกต่อบทบาทการเป็นเจ้าภาพของเวียดนาม
แถลงการณ์ฮานอย-วิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ความร่วมมือรัฐสภาภูมิภาค
การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 ซึ่งตรงกับการฉลองครบรอบ 25 ปีการจัดตั้งฟอรั่มและออกแถลงการณ์ฮานอยมีความหมายสำคัญพิเศษ สร้างพื้นฐานให้แก่ความร่วมมือใหม่ กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่การพัฒนาของฟอรั่มในอนาคต ก่อนหน้านั้น เอพีพีเอฟได้ออกแถลงการณ์พื้นฐาน 4 ฉบับ ซึ่งสร้างนิมิตหมายให้แก่แต่ละระยะพัฒนาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของฟอรั่มร่วมมือรัฐสภาระดับภูมิภาคนี้
แถลงการณ์ฮานอย “วิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนรัฐสภาเอเชียแปซิฟิก” ได้ระบุถึงการกำหนดแนวทางให้แก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนรัฐสภาภูมิภาค โดยยืนยันว่า สันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงคือเงื่อนไขชี้ขาด และเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน แถลงการณ์ได้ให้คำมั่นที่จะเดินหน้าเจตนารมณ์ของแถลงการณ์เอพีพีเอฟฉบับก่อนๆ ให้การช่วยเหลือและส่งเสริมผลงานของฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก ด้วยการสนับสนุนและระบุคำมั่นที่เอเปกได้บรรลุในกฎหมาย เอพีพีเอฟได้ส่งเสริมบทบาทการตรวจสอบของรัฐสภาเพื่อค้ำประกันแนวทางร่วมของภูมิภาคให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม นาย เหงียนวันเหย่า หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการต่างประเทศแห่งสภาแห่งชาติได้ประเมินว่า “ผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของเอพีพีเอฟคือการอนุมัติแถลงการณ์ฮานอย นิมิตหมายของแถลงการณ์ฮานอยคือการสานต่อแถลงการณ์ฉบับก่อนๆ โดยเฉพาะการประเมินภายหลัง 25 ปีของการก่อตั้งและพัฒนา หรือพวกเราได้เลือกความร่วมมือเพื่อสันติภาพและการพัฒนาของแต่ละประเทศในย่านเอเชียแปซิฟิก จากการกำหนดแนวทางที่ถูกต้องนี้ แถลงการณ์ฮานอยได้พัฒนากว้างลึกมากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030 แถลงการณ์ได้เกาะติดหัวข้อหลักคือ ความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจ การค้าและความร่วมมือภูมิภาค”
นาง ต่องถิฟ้อง รองประธานสภาแห่งชาติเวียดนามลงนามแถลงการณ์ร่วมของการประชุม |
ก้าวเดินใหม่เกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ
นิมิตหมายที่น่าสนใจของเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 คือการระบุบทบาทของส.ส สตรีให้เป็นรูปธรรมในระเบียบวาระการประชุมด้วยการแก้ไขระเบียบการเอพีพีเอฟให้การประชุมส.ส สตรีกลายเป็นการประชุมประจำปีอย่างเป็นทางการของเอพีพีเอฟ นี่คือความพยายามของทุกประเทศสมาชิกบนพื้นฐานข้อคิดริเริ่มของญี่ปุ่นเพื่อผลักดันความเสมอภาคทางเพศเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความเจริญรุ่งเรือง หัวหน้าคณะผู้แทนญี่ปุ่นและประธานกิตติมศักดิ์เอพีพีเอฟ Takuji Yanagimoto ได้แสดงความเห็นว่า “ผมให้ความสำคัญต่อความหมายของการระบุให้การประชุมส.ส สตรีกลายเป็นกิจกรรมอย่างเป็นทางการของเอพีพีเอฟ ซึ่งช่วยผลักดันบทบาทของส.ส สตรีมากขึ้น ผมรู้สึกยินดีเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนี้ในกลไกของเอพีพีเอฟ นี่คือพื้นฐานที่สำคัญในกิจกรรมของเอพีพีเอฟ”
นอกจากปัญหาความเสมอภาคทางเพศ ในการประชุมเอพีพีเอฟครั้งที่ 26 หัวข้อที่ร้อนระอุหลายประเด็นได้รับการหารือ นั่นคือการต่อต้านลัทธิก่อการร้ายระหว่างประเทศและอาชญากรรมข้ามชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านอาหารและการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน รัฐสภาต่างๆได้ระบุถึงความสำคัญของการแก้ไขต้นเหตุของปัญหานี้ผ่านนโยบาย กฎหมายและการจัดสรรแหล่งพลังที่เป็นรูปธรรม หลังการประชุมนี้ รัฐสภาสมาชิกเอพีพีเอฟจะปฏิบัติคำมั่นต่างๆที่ได้อนุมัติ และย้ำว่า สิ่งที่สำคัญคือ “ต้องแปรคำมั่นนี้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงในแต่ละประเทศ” ประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม เหงียนถิกิมเงินได้เผยว่า “สภาแห่งชาติเวียดนามจะพิจารณาการอนุมัติข้อตกลงที่ได้ลงนามตามคำมั่นระหว่างประเทศที่ให้ไว้และตรวจสอบระบบกฎหมายเพื่อค้ำประกันว่า เวียดนามได้แปรปัญหาที่ให้คำมั่นไว้อย่างเป็นรูปธรรม พวกเราจะพิจารณาว่า ต้องแก้ไขและเพิ่มเติมปัญหาอะไรในกระบวนการผสมผสาน คำมั่นและอนุมัติแถลงการณ์ รวมถึงคำประกาศการประชุมภูมิภาคนี้ เวียดนามจะปฏิบัติตามความรับผิดชอบของประเทศสมาชิก”
เอพีพีเอฟครั้งที่ 26 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยการกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ สถานะใหม่ของกลไกความร่วมมือระหว่างรัฐสภาย่านเอเชียแปซิฟิกภายหลัง 1 ใน 4 ศตวรรษของการก่อตั้งและพัฒนา ผลงานนี้มีส่วนร่วมนำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกพัฒนาอย่างยั่งยืนและเจริญรุ่งเรือง.