(VOVworld) – ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลีเซียนลุงพร้อมภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 4 วันตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ซึ่งการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม ซึ่งมีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – สิงคโปร์ให้เข้าสู่ส่วนลึกมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลีเซียนลุง (Photo AFP/VNplus)
|
ในฐานะเป็นสมาชิกของอาเซียน สิงคโปร์เป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของเอเชียและโลก พร้อมทั้งเป็นผู้เดินหน้าในการพัฒนาเป็นเศรษฐกิจเชิงปัญญาโดยตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 2018 จะกลายเป็นประเทศชั้นนำของโลกและเป็นแกนหลักในเครือข่ายใหม่ของเศรษฐกิจโลก
ก้าวเดินที่ยาวไกลแห่งความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์
เวียดนามและสิงคโปร์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคมปี 1973 นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้มีก้าวพัฒนาอย่างดีงามและรอบด้าน โดยเฉพาะหลังจากที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนเมื่อปี 1995 โดยสิงคโปร์ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามและถือเวียดนามเป็นตลาดหลักในด้านการค้าและการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อปี 2004 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนาม “แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับกรอบความร่วมมืออย่างรอบด้านในศตวรรษที่ 21” เพื่อสร้างพื้นฐานทางนิตินัยและอำนวยความสะดวกให้แก่การผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศ และเนื่องในโอกาสการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลีเซียนลุง เมื่อเดือนกันยายนปี 2013 ซึ่งประจวบการฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เวียดนามและสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในด้านความสัมพันธ์การค้าระหว่างสองประเทศก็มีการพัฒนาอย่างข้ามขั้น โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปีและบรรลุกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 การลงทุนโดยตรงของสิงคโปร์ในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1998 สิงคโปร์ยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 จากทั้งหมด 101 ประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนามรวมเงินทุนจดทะเบียน 3 หมื่น 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเขตนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม – สิงคโปร์หรือวีเอสไอพีทั้ง 7 แห่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในการลงทุนในเวียดนามในตลอด 11 ปีที่ผ่านมา นายเหงียนเตี๊ยนมิงห์ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสิงคโปร์ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับศักยภาพความร่วมมือด้านเศรจฐกิจระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ว่า “เวียดนามและสิงคโปร์มีศักยภาพความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในระดับสูงเนื่องจากเป็นเศรษฐกิจที่มีลักษณะสนับสนุนกัน โดยสิงคโปร์มีเงินทุนและประสบการณ์ ส่วนเวียดนามมีแหล่งบุคลากร ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์และสถานที่กว้างขวาง ซึ่งสามารถสนับสนุนกัน โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอกำลังได้รับการจัดทำและพัฒนา รวมไปถึงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP ที่มีเศรษฐกิจ 16 แห่งเข้าร่วม ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศความร่วมมือมากมาย”
(PhtoInternet)
|
ควบคู่กับการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านการศึกษาฝึกอบรม สาธารณสุข วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวก็บรรลุตัวเลขที่น่าประทับใจ โดยเมื่อปี 2016 เวียดนามได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวสิงคโปร์เกือบ 2 แสน 6 หมื่นคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปี 2015 เวียดนามและสิงคโปร์ร่วมมือและประสานงานอย่างใกล้ชิดบนเวทีพหุภาคีและระหว่างประเทศ เช่น อาเซียน เอเปก อาเซมและสหประชาชาติ ในด้านความมั่นคงยุทธศาสตร์ของภูมิภาค รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออก ทั้งสองประเทศมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิด มีทัศนะร่วมกันในหลายปัญหา รวมทั้งการปกป้องจุดยืนร่วมกันของอาเซียน
นิมิตรหมายใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์
ในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับแนวทางยุทธศาสตร์และมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้เข้าสู่ส่วนลึกมากขึ้นในอนาคตและตามทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 สนับสนุนกันเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เจริญรุ่งเรืองและขยายความร่วมมือระหว่างสองประเทศบนเวทีพหุภาคี รวมทั้งอาเซียน เอเปก อาเซมและสหประชาชาติ เอกอัครราชทูตเหงียนเตี๊ยนมิงห์ยืนยันว่า “โอกาสความร่วมมือในอนาคตมีสูงมาก ความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์จะไม่เพียงแต่อยู่ในกรอบทวิภาคีเท่านั้น หากยังขยายไปยังภูมิภาคอาเซียนและเอเชีย – แปซิฟิกอีกด้วย”
ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในตลอด 42 ปีที่ผ่านมาและครอบคลุมไปยังทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง กลาโหม การศึกษา สาธารณสุข วัฒนธรรมและศิลปะ ส่วนความสัมพันธ์ด้านการเมืองที่ดีงามจะเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์จะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศและเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม – สิงคโปร์.