กลไกยูพีอาร์คือกลไกระหว่างรัฐบาลของสภาสิทธิมนุษยชน มีหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในทุกประเทศสมาชิกของสหประชาชาติตามกำหนดรอบ 4 ถึง 5 ปีภายใต้กลไกแห่งการสนทนา ร่วมมือ มีความเสมอภาค มีภาวะวิสัย โปร่งใสและในเชิงสร้างสรรค์ เวียดนามสนับสนุนกลไกยูพีอาร์ของสภาสิทธิมนุษยชนและจัดทำรายงานแห่งชาติ ตลอดจนปฏิบัติตามข้อเสนอที่เวียดนามได้รับและเห็นชอบในรอบที่ 1 เมื่อปี 2009 และรอบที่ 2 เมื่อปี 2014 อย่างเคร่งครัด
นโยบายใหม่ๆค้ำประกันสิทธิมนุษยชนได้รับการประกาศใช้
รายงานรอบที่ 3 ของเวียดนามย้ำถึงความก้าวหน้าในการผลักดันและปกป้องสิทธิมนุษยชนนับตั้งแต่การตรวจสอบรอบที่ 2 โดยได้รับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ นโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ยุทธศาสตร์ปฏิรูปตุลาการ ตลอดจนกระบวนการปฏิบัติหน้าที่และคำมั่นระหว่างประเทศของเวียดนาม รวมทั้งข้อเสนอยูพีอาร์ที่เวียดนามได้เห็นชอบ รายงานประเมินว่า นับตั้งแต่การตรวจสอบรอบที่ 2 เวียดนามได้พยายามปรับปรุงกฎหมาย กลไก นโยบายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนให้มีความสมบูรณ์ สร้างพื้นฐานที่มั่นคงและนำมาซึ่งผลงานที่น่าชื่นชม โดยมีนโยบายใหม่ๆและสำคัญได้รับการประกาศใช้เพื่อเป้าหมายให้ประชาชนเวียดนามได้รับประโยชน์จากสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งการอนุมัติรัฐธรรมนูญฉบับปี 2013 และการแก้ไขการประกาศใช้เอกสารกฎหมายกว่า 90 ฉบับที่เกี่ยวข้องถึงการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนและสิทธิของพลเมือง เวียดนามยังพยายามสร้างสรรค์รัฐบาลในเชิงสร้างสรรค์ ปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืน ค้ำประกันสิทธิการพัฒนา สิทธิให้แก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสและสิทธิของแรงงาน นอกจากนั้น รัฐบาลยังประกาศใช้นโยบายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจน การรักษาความมั่นคงด้านอาหาร การปรับปรุงงานด้านโภชนาการ ผลักดันการเกษตรอย่างยั่งยืนและดูแลสุขภาพของแรงงาน
สำหรับการปฏิบัติคำมั่นระหว่างประเทศและความร่วมมือเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน นับตั้งแต่การตรวจสอบครั้งก่อน เวียดนามได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาเกี่ยวกับสิทธิของคนพิการและอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการทารุณกรรม ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี ดังนั้น ขณะนี้ เวียดนามคือสมาชิกของ 7 จากจำนวนทั้งหมด 9 อนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน
โดยเฉพาะ นับตั้งแต่การตรวจสอบครั้งก่อนจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้มีผลงานที่โดดเด่นในการปกป้องและผลักดันสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสิทธิพลเรือน การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ในระยะนี้ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรของเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ของครอบครัวยากจนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 15-20 อัตราคนจนในหลายมิติลดลงจากร้อยละ 9.88 เมื่อปี 2015 ลงเหลือร้อยละ 7.69 เมื่อปี 2017 ควบคู่กันนั้น ฐานะทางเศรษฐกิจของชนกลุ่มน้อยร้อยละ 38 ได้ยกระดับให้สูงขึ้น โดยตัวเลขเฉลี่ยของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 28 ส่วน 63 จังหวัดและนครได้บรรลุมาตรฐานการศึกษาภาคบังคับระดับอนุบาลให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบและใระดับประถมศึกษา สำหรับความเสมอภาคทางเพศ อัตราสตรีเป็นเจ้าของสถานประกอบการและโรงงานบรรลุกว่าร้อยละ 27.8 อัตราสตรีซึ่งเป็นสมาชิกของสภาแห่งชาติวาระปี 2016-2021 บรรลุร้อยละ 26.71 เวียดนามยังได้บรรลุผลงานในการค้ำประกันสิทธิพลเรือนและการเมือง รวมทั้งการค้ำประกันสิทธิความเสมอภาคในด้านกฎหมาย สิทธิเสรีภาพด้านสื่อมวลชนและอินเตอร์เน็ต ชีวิตด้านความเลื่อมใสและศาสนาในเวียดนามนับวันพัฒนาหลากหลาย โดยประชากรกว่าร้อยละ 95 เข้าร่วมการประกอบศาสนกิจ
เวียดนามให้ความสำคัญต่อคำมั่นตามกลไกยูพีอาร์
กระบวนการตรวจสอบตามกลไกยูพีอาร์คือกระบวนการสำคัญเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความคืบหน้าของประเทศต่างๆในแต่ละรอบในการค้ำประกันสิทธิมนุษยชน ระยะปฏิบัติข้อเสนอคือระยะสำคัญที่สุดของกระบวนการตรวจสอบ เนื่องจากแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลประเทศนั้นๆมีมาตรการปกป้องสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มแข็งหรือไม่ในการตรอบสอบยูพีอาร์รอบที่ 2 เวียดนามได้เห็นชอบข้อเสนอ 182 ข้อจาก 227 ข้อ ซึ่งเสนอที่ได้รับ จนถึงเดือนตุลาคมปี 2018 เวียดนามได้ปฏิบัติไปแล้ว 175 ข้อเสนอ คิดเป็นร้อยละ 96.2 ซึ่งในนั้นมี 159 ข้อเสนอที่ได้รับการปฏิบัติแล้วเสร็จ 16 ข้อเสนอได้รับการปฏิบัติแล้วเสร็จส่วนหนึ่งหรือกำลังได้รับการปฏิบัติ ส่วน 7 ข้อเสนอที่เหลือกำลังได้รับการปฏิบัติหรือพิจารณาการปฏิบัติในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยไม่มีข้อเสนอใดๆที่ได้รับการเห็นชอบแล้วแต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาปฏิบัติ เพื่อปฏิบัติข้อเสนอยูพีอาร์ เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการจัดทำแผนแบบบูรณาการที่นายกรัฐมนตรีอนุมัติ มอบอำนาจให้แก่กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงและหน่วยงานต่างๆยังมีข้อคิดริเริมหลายข้อเพื่อปฏิบัติข้อเสนอในด้านที่ตนดูแลรับผิดชอบ
ผ่านการผลักดันกลไกแห่งชาติเกี่ยวกับรายงาน ปฏิบัติและตรวจสอบ เวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงการมีกรอบกฎหมายและกลไกที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพื่อปฏิบัติข้อเสนอทั้งหมดจากสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ การเตรียมรายงานแห่งชาติยูพีอาร์รอบที่ 3 รายงานและการสนทนาเกี่ยวกับรายงานต่อที่ประชุมสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในเดือนมกราคมปี 2019 จะเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามย้ำถึงเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการผลักดันการสร้างสรรค์รัฐที่ปกครองด้วยอำนาจกฎหมาย ปฏิรูปกฎหมาย เสริมสร้างกลไก ระเบียบการในเชิงนิตินัยและนโยบายที่เกี่ยวข้องถึงการปกป้องและผลักดันสิทธิมนุษชนในเวียดนาม.