 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมผู้บริหารอาเซียนในระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมปี 2021 (กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม) |
พยายามฟันฝ่าความท้าทายและพัฒนา
ในตลอด 55 ปีนับตั้งแต่ที่ได้รับการก่อตั้ง อาเซียนนับวันพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้น กลายเป็นภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่ๆ และองค์กรนอกภูมิภาค ท่ามกลางความท้าทายและความซับซ้อนของปัญหาต่าง ๆ เช่นภาวะเงินเฟ้อและการปะทะด้านภูมิศาสตร์การเมืองในภูมิภาคและโลก ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ อาเซียนยังเป็นจุดเด่นด้านเศรษฐกิจโลก โดยบางประเทศสมาชิกที่ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าประทับใจท่ามกลางภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก
จากการมีข้อตกลงการค้าระดับภูมิภาคที่มีผลบังคับใช้และยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมที่สุดต่อการปฏิวัติ 4.0 อาเซียนได้รับการประเมินว่า มีศักยภาพในการขยายตัวถึงแม้ต้องรับมือความท้าทายต่างๆด้านภูมิศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจในทั่วโลกก็ตาม นาย Mathias Cormann เลขาธิการใหญ่องค์กรความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ OECD ยืนยันว่า
“อาเซียนกำลังเป็นภูมิภาคที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง เป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลกโดยมีประชากรถึง 660 ล้านคน อาเซียนสามารถผลักดันผลประโยชน์ของตนในตลาดโลกที่มีเสถียรภาพ ด้วยระบบการค้าระหว่างประเทศที่มีหลักการและก้าวหน้าของทุกประเทศสมาชิกในการแก้ปัญหาความยากจน การเพิ่มรายได้และการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจของภูมิภาคและโลกผ่านการค้าเสรีและการลงทุน ดังนั้น ผมเห็นว่า แม้เศรษฐกิจของหลายประเทศชลอตัวแต่เศรษฐกิจอาเซียนยังคงมีสัญญาณที่น่ายินดี”
นอกจากนั้น ในเวลาที่ผ่านมา สถานะและบทบาทของอาเซียนได้รับการยกระดับอย่างต่อเนื่อง ประเทศมหาอำนาจหลายแห่งให้ความสำคัญและชื่นชมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ถือการกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนเป็นหนึ่งในปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ นาย Antoni Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่า
“ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์และหุ้นส่วนระหว่างสหรัฐกับอาเซียนนับวันเข้มแข็งมากขึ้น สหรัฐให้คำมั่นต่อไปกับบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน เรามีความประสงค์ที่จะสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และทุกด้านกับอาเซียน”
เมื่อปี 2021 อาเซียนได้รับรองอังกฤษเป็นหุ้นส่วนสนทนาลำดับที่ 11 และในเร็วๆนี้ จะมีประเทศอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศสและอิตาลีเข้าร่วมด้วย ดังนั้น การขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนได้แสดงให้เห็นว่า อาเซียนสามารถดึงดูดความสนใจจากประเทศในภูมิภาคและนอกภูมิภาคมากขึ้น ในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 55 ที่มีขึ้น ณ ประเทศกัมพูชาเมื่อเร็วๆนี้ มีอีก 6 ประเทศเข้าร่วมสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ TAC ทำให้ขณะนี้มียอดจำนวนสมาชิกมากถึง 49 ประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของกลไกพหุภาคีที่อาเซียนเป็นผู้แนะแนวเพื่อผลักดันความร่วมมือมิตรภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
เวียดนามเดินพร้อมกับอาเซียนเพื่อยกระดับสถานะบนเวทีโลก
ในตลอด 27 ปีนับตั้งแต่ที่เข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน เวียดนามมีบทบาทเป็นแกนหลักในการกำหนดเป้าหมาย แนวทางพัฒนาและการตัดสินใจสำคัญๆของอาเซียน รวมทั้งเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นและจริงจังในการร่วมมือกับอาเซียนด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างขวาง มีความคิดริเริ่มเชิงก้าวกระโดดในทุกด้านด้วยขอบเขตอิทธิพลที่นับวันกว้างลึกมากขึ้น ในฐานะประธานอาเซียน 2020 ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เวียดนามยังคงพยายามผลักดันระเบียบวาระการประชุมต่างๆ แก้ไขผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้อย่างทันการณ์และสร้างกรอบการปฏิบัติในระยะยาวเพื่อช่วยให้อาเซียนฟื้นฟูอย่างยั่งยืน เช่น กองทุนรับมือโควิด -19 กรอบการฟื้นฟูอย่างรอบด้านอาเซียน ศูนย์สาธารณสุขฉุกเฉินชุมชนและโรคอุบัติใหม่ เป็นต้น สำหรับส่วนร่วมของเวียดนามในตลอด 27 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน นาย Lim Jock Hoi เลขาธิการใหญ่ของอาเซียนได้ประเมินว่า
“เวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นของอาเซียน นับตั้งแต่ที่เข้าเป็นสมาชิก เวียดนามได้มีส่วนร่วมต่อกระบวนการผสมผสานของภูมิภาคและกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคม โดยเฉพาะในปีที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 1998 ปี 2010 และปี 2020 เวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของการปฏิบัติตามแนวทางที่ภูมิภาคให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ รวมไปถึงความพยายามของอาเซียนในการรับมือวิกฤตโควิด -19 ผลักดันสิทธิของสตรี สนับสนุนการพัฒนาของเขตอนุภูมิภาค ซึ่งส่งผลดีต่อกระบวนการผสมผสานของภูมิภาค พร้อมทั้งช่วยยกระดับสถานะของอาเซียนบนเวทีโลกมากขึ้น”
อาเซียนเป็นหนึ่งในประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม ประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็งและพึ่งตนเองจะเป็นที่พึ่งอันมั่นคงของเวียดนามในการฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ.