(VOVworld) – ในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 10 สมัยที่ 13 สมาชิกรัฐสภาได้เน้นหารือถึงมาตรการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเวลาที่จะถึงโดยเน้นถึงการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและพยายามให้การขยายตัวด้านเศรษฐกิจในปี 2016 สูงกว่าปี 2015
การประชุมรัฐสภาครั้งที่ 10 สมัยที่ 13
|
ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมรัฐสภาครั้งที่ 10 สมัยที่ 13 นายกรัฐมนตรี เหงียนเติ๊นหยุง ได้เผยว่า ในระยะ 5 ตั้งแต่ปี 2016-2020 รัฐบาลจะปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงและเข้มงวดเพื่อปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัว ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งด้านวัตถุและจิตใจให้ดีขึ้น เน้นปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดอย่างพร้อมเพรียงและทันสมัยบนพื้นฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดของเศรษฐกิจเชิงตลาดและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก พัฒนาและใช้ตลาดต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาบรรยากาศการแข่งขันระหว่างสถานประกอบการต่างๆอย่างเสมอภาคและโปร่งใส
ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัว
สมาชิกรัฐสภาได้เห็นพ้องในระดับสูงเกี่ยวกับความมุ่งมั่นและการตัดสินใจของรัฐบาลและแสดงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวในระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2016-2020 อยู่ที่ร้อยละ 6.5-7 ต่อปี นาย เจิ่นหว่างเงิน สมาชิกคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภานครโฮจิมินห์ได้แสดงความเห็นว่า“เวียดนามได้ผลักดันกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจในรอบ 3 ปีมานี้ โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนภาครัฐ การปรับปรุงโครงสร้างกลุ่มบริษัทและเครือบริษัทภาครัฐ โดยเฉพาะการปรับปรุงโครงสร้างระบบธนาคารพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเราต้องยืนหยัดรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคโดยควบคุมภาวะเงินเฟ้ออย่างมีประสิทธิภาพและปัญหาเกี่ยวกับความสมดุลด้านการค้า ความสมดุลของการชำระเงิน อัตราการแลกเปลี่ยนเงิน การควบคุมการขาดดุลงบประมาณและควบคุมการเพิ่มของอัตราหนี้สาธารณะเพื่อช่วยรักษาการขยายตัวด้านเศรษฐกิจของเวียดนามอย่างยั่งยืน”
สมาชิกรัฐสภาได้ย้ำถึงการปฏิบัติโครงการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานและด้านต่างๆแบบบูรณาการต่อไป ผลักดันและยกระดับประสิทธิภาพการปรับปรุงโครงสร้างการเกษตรอย่างพร้อมเพรียงควบคู่กับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เน้นพัฒนาหน่วยงานอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง อุตสาหกรรมประกอบ อุตสาหกรรมแปรรูป ความสามารถด้านการก่อสร้างไฮเทก นอกจากนี้ ยังมี 3 ด้านหลักที่ถูกกำหนดประกอบด้วย การปรับปรุงโครงสร้างการลงทุนภาครัฐ การปรับปรุงระบบการเงิน-ธนาคารโดยเน้นถึงธนาคารพาณิชย์และปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐโดยเน้นกลุ่มบริษัทและเครือบริษัทภาครัฐ
ยกระดับความสามารถในการผลิตและประกอบธุรกิจ ขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการ
การยกระดับความสามารถในการผลิต ประกอบธุรกิจ ขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการคือหนึ่งในหน้าที่ที่รัฐสภาได้มอบหมายให้รัฐบาลให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการชี้นำและบริหารในเวลาที่จะถึง สมาชิกรัฐสภาได้ชื่นชมมาตรการของรัฐบาลที่เน้นปรับปรุงบรรยากาศการลงทุน แก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิต ประกอบธุรกิจ ขยายตลาดส่งออก ใช้ความได้เปรียบในข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งผลักดันกระบวนการปฏิบัติและเบิกจ่ายแหล่งเงินลงทุนพัฒนาจากงบประมาณแผ่นดิน พันธบัตรของรัฐบาล แหล่งเงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการจากต่างประเทศหรือโอดีเอ ผลักดันการระดม การใช้แหล่งพลังอย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมการลงทุนทางสังคม นาย เหงียนดึ๊กเกียน รองประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภาจังหวัดซอกจังได้เผยว่า “รัฐบาลได้มี 8 กลุ่มมาตรการ พวกเราต้องปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงและเคร่งครัด รัฐบาลไม่สามารถสร้างการขยายตัวได้ หากเป็นหน้าที่ของสถานประกอบการ ต้องยกระดับสถานะของสถานประกอบการภายในประเทศ”
ดร. เจิ่นยูหลิก รองหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์
|
ส่วนดร. เจิ่นยูหลิก รองหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์ได้เผยว่า ต้องเน้นถึงบทบาทของเศรษฐกิจภาคเอกชน “สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมคือสถานประกอบการภาคเอกชน แนวทางในปัจจุบันได้ระบุอย่างชัดเจนโดยถือภาคเอกชนเป็นส่วนสำคัญของระบบเศรษฐกิจ พวกเราต้องถือการพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมคือยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับสถานประกอบการ”
สมาชิกรัฐสภาได้แสดงความเห็นว่า เวียดนามกำลังมีโอกาสและความท้าทายมากมายเมื่อข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศฉบับต่างๆได้รับการลงนาม รวมทั้งข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกหรือทีพีพีโดยเมื่อเข้าร่วมข้อตกลงทีพีพีเวียดนามจะมีเงื่อนไขมากขึ้น สามารถใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคม ปฏิบัติยุทธศาสตร์ผสมผสานเข้ากับกระแสโลก รวมทั้งยุทธศาสตร์การต่างประเทศในเอเชียแปซิฟิกและยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก
ปี 2016 เวียดนามจะธำรงอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจต่อไป ในปี 2015 การขยายตัวจีดีพีได้รับการคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ส่วนการขยายตัวจีดีพีในปี 2016 จะอยู่ในระดับสูงกว่าคือร้อยละ 6.7 ดังนั้นรัฐสภาเวียดนามกำลังวางแผนและปฏิบัติเป้าหมายรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและธำรงอัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ.