(VOVWorld)-วันที่๒๔ตุลาคม ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือเศรษฐกิจอิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขงหรือACMECSครั้งที่๗ การประชุมผู้นำ๔ประเทศกัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์-เวียดนามหรือCLMVครั้งที่๘และการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกแห่งแม่โขงหรือ WEF-Mekong การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานกับประเทศเพื่อนบ้าน มีส่วนร่วมพัฒนากลไกความร่วมมืออย่างจริงจังเพื่อเป้าหมายสร้างสรรค์อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขที่สันติภาพและเจริญรุ่งเรือง
การประชุมผู้นำ๔ประเทศกัมพูชา-ลาว-เมียนมาร์-เวียดนาม
(Photo: vietnamplus.vn)
|
นี่เป็นครั้งที่๒ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำความร่วมมือCLMVและACMECS ซึ่งการประชุมACMECS๗ CLMV๘และWEF-Mekong เป็นกิจกรรมการต่างประเทศพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในปี๒๐๑๖ การจัดการประชุมดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จมีความหมายสำคัญเป็นอย่างมากต่อเวียดนามทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม เพื่อผลประโยชน์ของทั้งเวียดนามและประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการวางระเบียบวาระการประชุม
ในฐานะประเทศเจ้าภาพ เวียดนามได้เสนอหัวข้อของการประชุมCLMV๘คือ “ใช้โอกาส-กำหนดอนาคต” ส่วนหัวข้อการประชุมผู้นำACMECS๗คือ “มุ่งสู่เขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่คล่องตัวและเจริญรุ่งเรือง”และการประชุมWEF-Mekongในหัวข้อ “ แสวงหาความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์- บรรดาผู้นำแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง” โดยหัวข้อเหล่านี้ต่างได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ซึ่งหัวข้อดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายร่วมกันของประเทศต่างๆคือ สร้างสรรค์อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่สันติภาพและเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมความคล่องตัวและการใช้โอกาสใหม่ของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงใหม่และกำหนดแนวทางความร่วมมือในเวลาที่จะถึง นาย ดั๋งดิ่งกวี๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า “ในการประชุมครั้งนี้ เวียดนามพยายามเสนอความคิดริเริ่มต่างๆ ซึ่งความคิดริเริ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ เวียดนามได้เชิญฟอรั่มเศรษฐกิจโลกมาจัดการประชุมเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับแม่น้ำโขงครั้งแรกเพื่อผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการกับผู้นำและผู้กำหนดนโยบาย ผมหวังว่า ผ่านการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายต่างๆจะมีโครงการร่วมมือที่เป็นรูปธรรม”
ที่ประชุมครั้งนี้ดึงดูดการเข้าร่วมของเครือบริษัทและบริษัทสมาชิกฟอรั่มเศรษฐกิจโลกกว่า๑๐๐แห่งและสถานประกอบการ๖๐แห่งของประเทศในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง นี่เป็นโอกาสที่ดีเพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต่อชมรมสถานประกอบการ ดึงดูดการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แหล่งบุคลากรและผลักดันการเชื่อมโยงในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง นอกจากนี้ เวียดนามยังเสนอมาตรการผลักดันการประสานงานในการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมจนถึงปี๒๐๓๐ของสหประชาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นาย ดั๋งดิ่งกวี๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม
|
มุ่งสู่อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่คล่องตัวและเจริญรุ่งเรือง
กลไกความร่วมมือACMECSและCLMVได้รับการจัดตั้งเมื่อปี๒๐๐๓และได้กลายเป็นกลไกความร่วมมือที่สำคัญและช่วยส่งเสริมศักยภาพของประเทศต่างๆในเขต
ภายหลังดำเนินงานมาเป็นเวลา๑๓ปี ความร่วมมือACMECSและCLMVได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี มีส่วนร่วมเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงและลดช่องว่างการพัฒนาในอาเซียน จากการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างกว้างลึกและความพยายามในการอำนวยความสะดวกให้แก่การแลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุน เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้กลายเป็นเขตที่พัฒนาอย่างคล่องตัวและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวที่สำคัญของอาเซียน นาย ดั๋งดิ่งกวี๊ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ประเมินบทบาทของ๒กลไกความร่วมมือดังกล่าวว่า “สองกลไกความร่วมมือดังกล่าวเป็นกลไกที่สำคัญเพราะในจำนวน๑๒กลไกความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง สองกลไกความร่วมมือดังกล่าวเน้นถึงเนื้อหาสำคัญของประเทศสมาชิก ถ้าอยากขยายความร่วมมือกับประเทศต่างๆนอกภูมิภาค ก่อนอื่น ต้องปฏิบัติกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศภายในภูมิภาคเป็นอย่างดี ซึ่งกลไกความร่วมมือดังกล่าวช่วยสร้างโอกาสให้แก่ประเทศต่างๆหารือเกี่ยวกับปัญหาที่ให้ความสนใจร่วมกันและปัญหาต่างๆที่ต้องได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ ประเทศเหล่านี้ก็มีบทบาทสำคัญในอาเซียน”
นับตั้งแต่เข้าร่วมกลไกความร่วมมือACMECSและCLMV เวียดนามได้พยายามปฏิบัติบทบาทของตนเป็นอย่างดี ในจำนวนประเทศสมาชิกCLMV เวียดนามมีจุดแข็งในด้านขอบเขตเศรษฐกิจ ประสบการณ์ในการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงใหม่และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก บนพื้นฐานนี้ เวียดนามได้มีความคิดริเริ่มและมีส่วนร่วมผลักดันการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาแหล่งพลังต่างๆ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ผลักดันการปฏิบัติโครงการพัฒนาร่วมของ๔ประเทศ ส่วนในกรอบของกลไกความร่วมมือACMECS เวียดนามได้พยายามปฏิบัติเป้าหมายร่วมเพื่อใช้ศักยภาพ ผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมกับประเทศสมาชิกดึงดูดหุ้นส่วนทั้งภายในและนอกอาเซียน
ในระยะแห่งการพัฒนาใหม่ของเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กลไกความร่วมมือACMECSและCLMVจะมีบทบาทสำคัญเพื่อช่วยให้ประเทศสมาชิกฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ ยกระดับทักษะความสามารถในการแข่งขันและใช้โอกาสการพัฒนาใหม่ ในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ เวียดนามได้ร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆพัฒนากลไกความร่วมมือACMECSและCLMVให้ย่างเข้าสู่ระยะใหม่เพื่อมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค.