นายกรัฐมนตรีเวียดนามพบปะกับกษัตริย์แห่งบรูไนในกรอบการประชุมอาเซียน |
เวียดนามและบรูไนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี1992และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการธำรงเสริมสร้างในทุกด้านอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จต่างๆ อันเป็นการมีส่วนร่วมสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์เวียดนาม-บรูไนให้พัฒนาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในทั้งระดับภูมิภาคและบนเวทีโลก
ความร่วมมือในหลายด้าน
ถึงแม้บรูไนจะเป็นประเทศเล็กและมีประชากรน้อย แต่รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรของบรูไนอยู่อันดับ2ของอาเซียน เป็นตลาดที่เต็มศักยภาพสำหรับผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค การเกษตรและอาหารของเวียดนาม เมื่อปี2016ในการโอกาสประธานประเทศเวียดนามเยือนบรูไนอย่างเป็นทางการทั้งสองฝ่ายได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมยืนยันคำมั่นกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อบรรลุมูลค่าการค้าต่างตอบแทนที่500ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี2025และอำนวยเงื่อนไขที่สะดวกในการลงทุนประกอบธุรกิจระหว่างสองประเทศ ควบคู่กันนั้น นับตั้งแต่ที่มีการเปิดเส้นทางบินตรงบรูไน-นครโฮจิมินห์เมื่อเดือนตุลาคมปี2014 เวียดนามนับวันกลายเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวบรูไนอันเป็นการมีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ระดับประชาชนทั้งสองประเทศ
ในด้านการค้า แม้มูลค่ายังไม่สูงนักแต่สินค้าหลายรายการของเวียดนามเช่น กาแฟ น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้งกำลังเจาะตลาดมีส่วนแบ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไปในตลาดบรูไน ส่วนผู้ประกอบการด้านการก่อสร้างก็มีโครงการลงทุนมูลค่าสูงหลายโครงการในประเทศนี้ โดยเฉพาะที่น่าสนใจคือในปี2018 เครือบริษัทประกอบเครื่องจักรเวียดนาม-ลีลามาได้ชนะการประมูลมูลค่า85ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อก่อสร้างโรงงานปุ๋ยมูลค่า1.3พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในด้านกลาโหม ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ร่วมมือที่แน่นแฟ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีการตั้งสำนักงานตัวแทนและแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระหว่างกันเป็นประจำ ควบคู่กันนั้น ความร่วมมือด้านการศึกษาก็เป็นด้านที่ผู้นำสองประเทศให้ความสนใจผลักดัน ซึ่งสะท้อนจากตัวอย่างการเชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัยบรูไนและมหาวิทยาลัยเอฟพีทีเวียดนาม โดยจำนวนนักศึกษาบรูไนที่มาศึกษาที่เวียดนามและครูอาจารย์จากบรูไนที่มาสอนภาษาต่างประเทศในเวียดนามนับวันเพิ่มมากขึ้น ส่วนความร่วมมือด้านอื่นๆเช่นการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงและการประมงจะมีโอกาสขยายตัวมากขึ้นหลังการเสด็จเยือนเวียดนามครั้งนี้ของกษัตริย์แห่งบรูไน
เป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทน500ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี2025
ปัจจุบันด้านที่สองฝ่ายเน้นผลักดันความสนใจร่วมมือคือการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในโครงการหลักๆคือการก่อสร้างถนน สะพาน โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเลียมซึ่งเวียดนามมีจุดแข็งพร้อมทั้งได้รับความไว้วางใจจากประสบการณ์และคุณภาพโครงการต่างๆ นี่ก็เป็นด้านที่ได้รับความคาดหวังว่าจะมีส่วนร่วมในการสร้างมูลค่า500ล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างสองประเทศในปี2025 คาดว่าในการเสด็จเยือนเวียดนามครั้งนี้หอการค้าของทั้งสองประเทศจะลงนามเอ็มโอยูเพื่อผลักดันความร่วมมือ ขยายตลาดเพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าของทั้งสองประเทศเจาะตลาดระหว่างกัน
ทั้งนี้สามารถยืนยันได้ว่า การเสด็จพระราชดำเนินเยือนเวียดนามครั้งนี้ของกษัตริย์แห่งบรูไนจะสร้างนิมิตหมายใหม่ในรอบ27ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ มีส่วนร่วมเสริมสร้างและกระชับความร่วมมือในด้านต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม ให้การสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีและเวทีระหว่างประเทศ ร่วมส่งเสริมเสียงพูดเดียวกันต่อปัญหาความสามัคคีและธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค มีส่วนร่วมธำรงและผลักดันสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพ ความปลอดภัยและการเดินเรือ เดินอากาศอย่างเสรีในภูมิภาค.