( VOVworld )- วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๐๑๒ ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯพร้อมคณะผู้แทนเวียดนามได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๐ ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับอินเดีย ณ กรุงนิวเดลลี ประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ ๒๐ – ๒๑ เดือนนี้ ตามคำเชิญของนายกฯอินเดีย มันโมฮัน ซิงห์ การเยือนนี้สะท้อนนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามในความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับอินเดียและผลักดันความร่วมมือทวิภาคีกับอินเดียในทุกด้านเช่นเดียวกับบนเวทีภูมิภาคและโลก

นายกฯเหงวียนเต้ินหยุงเดินทางถึงกรุงนิวเดลลี อินเดีย

การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๐ ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่งอาเซียนกับอินเดียในหัวข้อ “ หุ้นส่วนยุทธศาสต์อาเซียน-อินเดียเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง ” ได้เน้นหารือถึงทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอินเดียในอนาคตและอนุมัติปฏิญญาวิสัยทัศน์โดยยกระดับความสัมพันธ์คู่เจรจาระหว่างอาเซียนกับอินเดียวขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์

อาเซียนกับอินเดียสถาปนาความสัมพันธ์คู่เจรจาตั้งแต่ปี ๑๙๙๒  ในตลอด ๒๐ ปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้ประสบผลในหลายด้านเป็นที่น่ายินดีโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ  โดยสองฝ่ายได้ลงนามกรอบข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุกด้าน อันเป็นพื้นฐานให้แก่การจัดตั้งเขตการค้าและลงทุนระหว่างอาเซียนกับอินเดีย  ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าและข้อตกลงเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการพิพาทระหว่างอาเซียนกับอินเดียซึ่งจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้  อันเป็นเงื่อนไขที่อำนวยให้อินเดียสามารถขยายความร่วมมือและลงทุนในตลาดใหญ่อาเซียนที่มีประชากรกว่า ๖๐๐ ล้านคน  ส่วนอาเซียนก็จะสามารถใช้ประโยชน์ศักยภาพหลายอย่างจากเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ ๒ ของเอเชียเพื่อมุ่งสู่ประชาคมอาเซียนในปี ๒๐๑๕   นับตั้งแต่ปี ๒๐๐๙ อาเซียนกับอินเดียได้ตั้งเป้าไว้ว่า จะบรรลุมูลค่าการค้าทวิภาคี ๗ หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี ๒๐๑๒  อย่างไรก็ดี การค้าระหว่างสองฝ่ายมีมูลค่าเกินเป้าหมายประมาณ ๕ พันล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี ๒๐๑๑ และกำลังพยายามใช้ศักยภาพอันยิ่งใหญ่นี้อย่างเต็มที่

การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียจัดขึ้นในขณะที่ทั้งสองฝ่ายมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว จึงถือเป็นเหตุการณ์สำคัญเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือ มิตรภาพและช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อบรรลุเป้าหมายของแต่ละฝ่าย  ท่านรันจิต แร เอกอัครราชทูตอินเดียประจำเวียดนามเห็นว่า  “  พวกเราควรผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายในขณะที่ภูมิภาคและโลกกำลังเปิดกว้าง โดยปรากฎรูปแบบความมั่นคงและเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาคและโลกที่กำลังมีความคืบหน้า ภายหลังปฏิบัติมาเป็นเวลา ๒๐ ปี ขณะนี้นโยบายมุ่งสู่ตะวันออกของอินเดียได้สมบูรณ์แบบแล้ว อินเดียได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่เหนียวแน่นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความคล่องตัว  ความสัมพันธ์และร่วมมืออย่างรวดเร็วระหว่างอินเดียกับอาเซียนจะสะท้อนอย่างชัดเจนในการประชุมสุดยอดอินเดีย-อาเซียน ณ กรุงนิวเดลลีตั้งแต่วันที่ ๒๐ – ๒๑ ธันวาคมนี้

เวียดนามได้มีความสัมพันธ์กับอินเดียมานาน โดยบรรดาผู้นำและประชาชนสองประเทศได้ทำนุบำรุงมาโดยตลอด ดังนั้นสองฝ่ายจึงมีความเข้าใจและเห็นด้วยในปัญหาหลายประเด็น  ในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามกับอินเดียได้ร่วมมือกันในกรอบความร่วมมือของอาเซียนและบนเวทีระหว่างประเทศอย่างแน่นแฟ้นและมีประสิทธิภาพ  ศ.ปานาซานี สมาชิกรัฐสภาอินเดียได้มีบทความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับเวียดนามก่อนนายกฯเหงวียนเติ้นหยุงเดินทางไปเยือนอินเดียโดยย้ำว่า แม้ว่า เวียดนามกับอินเดียไม่มีชายแดนติดกันและมีความแตกต่างกันทางภูมิประเทศ แต่ทั้งสองประเทศต่างตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันในปัญหาระดับภูมิภาคและโลก  ซึ่งผลประโยชน์ทางการเมือง เศรษฐกิจและทางยุทธศาสตร์ รวมถึงความปรารถนาและความสนใจร่วมกันล้วนเป็นปัจจัยผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างสองประเทศ ซึ่งจะช่วยเอื้ออำนวยให้สองประเทศใช้ประโยชน์ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี เสริมพลังกันแข็งแกร่งให้แก่แต่ละฝ่ายเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความท้าทายของภูมิภาคและโลก  นโยบายมุ่งสู่ตะวันออกของอินเดียเล็งเห็นบทบาทของเวียดนามในภูมิภาคอาเซียนและประสงค์ร่วมมือกับเวียดนามเพื่อสร้างสรรค์ภูมิภาคเอเชียที่พัฒนาอย่างคล่องตัว มีสันติภาพและความมีเสถียรภาพ เอกอัครราชทูตอินเดียเผยต่อไปว่า  “ การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์และการเมืองในทั่วโลกส่งผลกระทบในทางบวกต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ โครงการปฏิรูปเศรษฐกิจของแต่ละประเทศและกระบวนการผสมผสานเข้ากับโลกทางด้านเศรษฐกิจได้ทำให้เห็นลู่ทางความร่วมมือต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์อย่างมากมาย พวกเราต้องยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยอาศัยความคล้ายคลึงด้านผลประโยชน์และความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการพัฒนาของภูมิภาคและโลก อินเดียและเวียดนามมีวิสัยทัศน์ร่วมกันเกี่ยวกับองค์ประกอบของภูมิภาคและโลกที่ขยายกว้าง คลอบคลุมและมีประชาธิปไตย โดยทุกประเทศต่างมีบทบาทที่แท้จริง  ทั้งนี้และทั้งนั้นจะส่งผลดีต่อสันติภาพ ความมั่นคงและความมีเสถียรภาพ อันเป็นการอำนวยเงื่อนไขที่สะดวกแก่การผลักดันความร่วมมือเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนทั้งสองประเทศ ”

ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดียครั้งนี้  นอกจากเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของการประชุมแล้ว ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯเวียดนามจะมีการพบปะทวิภาคีกับบรรดาผู้นำอินเดียและประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อการผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอินเดียให้พัฒนาอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอินเดียมีประสิทธิภาพมากขึ้น ./.