เร่งปฏิบัติเป้าหมายเศรษฐกิจสังคมในปี 2024 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

Anh Huyen
Chia sẻ
(VOVWORLD) - ในรายงานของรัฐบาลที่ยื่นต่อการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 7 สมัยที่ 13 ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอยในเช้าวันที่ 20 พฤษภาคม นาย เลมิงห์ค้าย รองนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า ในสภาวการณ์ที่เต็มไปด้วยความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ การปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมปี 2023 และในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ บนพื้นฐานดังกล่าว รัฐบาลได้ตั้งใจและพยายามมากขึ้นเพื่อเสร็จสิ้นเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่วางไว้ในปี 2024 และแผนการปฏิบัติในระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025
เร่งปฏิบัติเป้าหมายเศรษฐกิจสังคมในปี 2024 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว - ảnh 1รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย 

ในรายงานรัฐบาลได้ยืนยันว่า ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคกำลังรับมือความท้าทายต่างๆ ในหลายเดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจมหภาคและเวียดนามมีเสถียรภาพในขั้นพื้นฐาน สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อและค้ำประกันความสมดุลใหญ่ๆ การขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสแรกของปี 2024 ได้บรรลุร้อยละ 5.66 สูงที่สุดในระยะปี 2020 – 2023 ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI เฉลี่ยใน 4 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.93 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ที่น่าสนใจคือ ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของเวียดนามได้เลื่อนขึ้น 8 อันดับ ติดอันดับที่ 107 ในจำนวนทั้งหมด 1931 อันดับ ดัชนีความผาสุกของเวียดนามเลื่อนขึ้น 11 อันดับ ติดอันดับที่ 54 ในจำนวนทั้งหมด 143 อันดับ

ในเวลาที่จะถึง ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกและภูมิภาคมีความซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ ซึ่งสร้างความท้าทายและกดดันต่อการชี้นำและควบคุมเศรษฐกิจมหภาคและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดว่า จำเป็นต้องพยายามมากขึ้น ดำเนินงานอย่างเด็ดขาด ผลักดันให้ก้าวรุดหน้าต่อไปเพื่อเสร็จสิ้นเป้าหมายการพัฒนาที่วางไว้

ยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายที่วางไว้

รายงานฯ ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ในการปฏิบัติตามการชี้นำบริหารในมติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 และมติต่างๆ ของพรรค สภาแห่งชาติและรัฐบาลได้เน้นปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 10 ปี ระหว่างปี 2021-2030 และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 5 ปี ระหว่างปี 2021-2025 อย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ โดยเน้นส่งเสริมจิตใจแห่งการเป็นฝ่ายรุก กระตือรือร้น เปลี่ยนแปลงใหม่ นวัตกรรม ค้ำประกันความคล่องตัว ทันการณ์และมีประสิทธิภาพในการชี้นำบริหาร ยกระดับทักษะความสามารถในการวิเคราะห์ พยากรณ์และประกาศนโยบายต่างๆ อย่างทันการณ์ รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย ย้ำว่า

“ ยืนหยัดไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและยืนยันเป้าหมายที่วางไว้ โดยใช้โอกาสและความได้เปรียบต่างๆ เพื่อการพัฒนา เน้นแก้ไขอุปสรรค ผลักดันการผลิต ประกอบธุรกิจ สร้างงานทำและการดำรงชีวิต ต้องค้ำประกันความมีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคมในทุกสภาวการณ์ รักษาความมั่นคงกลาโหม ส่งเสริมการต่างประเทศ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ผลักดันด้านข้อมูลข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ สร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในสังคม ให้กำลังใจและปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความรักประเทศและความปรารถนาก้าวรุดหน้าไปของสถานประกอบการ ประชาชนและสังคม

รายงานของรัฐบาลยังย้ำว่า การส่งเสริมความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์คือปัจจัยชี้ขาดเพื่อให้การบริหารของรัฐบาลมีประสิทธิภาพ ผลักดันการแบ่งและมอบอำนาจตามระดับต่างๆ จัดสรรแหล่งพลังและยกระดับทักษะความสามารถในการปฏิบัติพร้อมกับการเพิ่มการตรวจสอบ รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยและระเบียบวินัยทางราชการ แก้ไขอุปสรรคต่างๆ

ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการผลักดันการขยายตัวพร้อมกับการรักษาความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค

หนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญในเวลาที่จะถึง คือ รัฐบาลให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ค้ำประกันความสมดุลใหญ่ๆของเศรษฐกิจ ประสานงานอย่างใกล้ชิด มีประสิทธิภาพและมีความสอดคล้องกันระหว่างนโยบายบริหารเศรษฐกิจมหภาคต่างๆ ปรับเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนแบบเดิมเพื่อกระตุ้นพลังขับเคลื่อนใหม่ รัฐบาลปฏิบัตินโยบายยกเลิก ลด ชะลอ ขยายเวลาและปรับโครงสร้างหนี้ผ่านการควบคุมนโยบายการเงินอย่างคล่องตัว เป็นฝ่ายรุก ทันการณ์และมีประสิทธิภาพ โดยประสานงานกับนโยบายการเงินแบบขยายวงและนโยบายอื่นๆ อย่างเหมาะสม สำหรับความสัมพันธ์ร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศและผลักดันเศรษฐกิจภายในประเทศ รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้ายระบุว่า

“เพิ่มการส่งเสริมการค้า ผลักดันการส่งออกไปยังตลาดใหญ่ๆ ใช้โอกาสจากตลาดที่มีศักยภาพ ส่งเสริมข้อตกลงการค้าที่ได้ลงนามอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันการเจรจาและลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้หรือ กลุ่ม Mercosur เป็นต้น พัฒนาตลาดภายในประเทศและกระตุ้นการบริโภค พัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจแห่งสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจแบ่งปัน ด้านที่เพิ่งโดดเด่นและรูปแบบการประกอบธุรกิจใหม่ๆ”

สำหรับหน้าที่หลักเพื่อบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ-สังคมในช่วงปลายปี รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย ได้ย้ำถึงการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการพัฒนาการเกษตรเชิงนิเวศ เกษตรอินทรีย์ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ ต้องผลักดันอุตสาหกรรมให้บริการที่มีศักยภาพและมีความได้เปรียบ โดยเน้นถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน รวดเร็วและยั่งยืน พยายามบรรลุเป้าหมายในปีนี้ คือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 18 ล้านคน สำหรับงานด้านการต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย ย้ำว่า

“ปฏิบัติกิจกรรมด้านการต่างประทเศ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างพร้อมเพรียง รอบด้านและมีประสิทธิภาพ ธำรงบรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดแหล่งพลังต่างๆ ให้แก่การพัฒนาของประเทศ ยกระดับชื่อเสียงและสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก เสนอให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องประกาศมติใหม่เกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและผลักดันการรณรงค์ให้ลงสมัครดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ของสำนักงานและฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ เตรียมพร้อมให้แก่การเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมสำคัญๆ ส่งเสริมงานด้านการต่างประเทศในด้านเศรษฐกิจ การทูตวัฒนธรรมและการต่างประเทศในระดับประชาชน ปฏิบัติงานด้านชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศและคุ้มครองพลเมืองให้ดีที่สุด”

รองนายกรัฐมนตรี เลมิงห์ค้าย แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะฟันฝ่าความท้าทายต่างๆ ใช้โอกาสและพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม พยายามบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2024 และระยะปี 2021-2025 ด้วยผลสำเร็จที่งดงามที่สุด.

Feedback