(VOVWorld)-
กิจกรรมการปรับปรุงเกาะต่างๆและการเคลื่อนไหวด้านการทางทหารในทะเลตะวันออกของจีนในเวลาที่ผ่านมาได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาคมโลก รวมทั้ง ประเทศอาเซียน นับตั้งแต่ที่ประชาคมอาเซียนได้รับการจัดตั้ง อาเซียนได้ส่งเสริมความตระหนักเกี่ยวกับบทบาทของตนต่อปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออก
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ
|
ปัจจุบัน ปัญหาทะเลตะวันออกไม่เพียงแต่เป็นปัญหาของประเทศที่ประกาศอธิปไตยของตนในเขตทะเลนี้เท่านั้น หากยังเป็นของทุกประเทศที่มีผลประโยชน์ในเขตทะเลดังกล่าวอีกด้วย รวมทั้ง อาเซียน จากความผันผวนในทะเลตะวันออกเมื่อเร็วๆนี้ ดูเหมือนว่า อาเซียนได้พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาดังกล่าว
ส่งเสริมความสามัคคีมากขึ้น
ในการประชุมผู้นำสหรัฐ-อาเซียนที่มีขึ้น ณ รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปัญหาการพิพาทด้านอธิปไตยเป็นหัวข้อใหญ่ที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือ แต่การแถลงการณ์ร่วมของการประชุมครั้งนี้ไม่ได้ระบุถึงชื่อทะเลตะวันออก หากทั้งสองฝ่ายได้เรียกร้องให้เคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศและกฎหมายสากล ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า การที่ไม่กล่าวถึงจีนในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในกลุ่มและการแตกแยกดังกล่าวจะทำลายความสามัคคีของอาเซียน แต่ภายหลังกว่า๑สัปดาห์ ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่มีขึ้น ณ กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่๒๗กุมภาพันธ์ บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้ชี้ชัดถึงวิธีแก้ไขการพิพาทด้านอธิปไตยในทะเลตะวันออก เช่น ทุกปัญหาการพิพาทต้องได้รับการแก้ไขอย่างสันติ ให้ความเคารพมาตรการทางการทูตและนิตินัย ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ซึ่งนอกเหนือจากการระบุว่า ต้องให้ความเคารพการเจรจาสันติภาพแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่แถลงการณ์ร่วมของอาเซียนให้การสนับสนุนการใช้มาตรการทางนิตินัยในการแก้ไขปัญหาการพิพาท รองศาสตรจารย์ เลวันเกือง อดีตหัวหน้าสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์สังกัดกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปได้เผยว่า นี่เป็นก้าวเดินที่เข้มแข็งของอาเซียน“พวกเราคิดว่า นี่เป็นปฏิกิริยาในทางบวกของ๑๐ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีชะตากรรมร่วมกัน อาเซียนมีบทบาทที่สำคัญไม่เพียงแต่ในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ในสภาวการณ์โลกปัจจุบัน อาเซียนต้องส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงของภูมิภาคและโลกด้วย”
ประกาศข่าวสารนิเทศของประธานการประชุมดังกล่าวยังชี้ชัดว่า อาเซียนแสดงความวิตกกังวลต่อความผันผวนที่ซับซ้อนในทะเลตะวันออก รวมทั้ง การปรับปรุงเกาะต่างๆครั้งใหญ่และขยายปฏิบัติการที่ส่งผลเสียต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค อาเซียนเรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวด้านการทางทหารและต้องใช้ความอดกลั้นในการแก้ไขปัญหาการพิพาทในเขตนี้ รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ เหงวียนหวูตุ่ง เจ้าหน้าที่สถาบันทะเลตะวันออกได้เผยว่า “ปฏิบัติการของจีนได้เดินสวนทางกับกฎหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ แถลงการณ์ทางการเมืองระดับทวิภาคีและพหุภาคี การกระทำดังกล่าวของจีนได้ส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจของประเทศต่างๆ”
ปัญหาทะเลตะวันออกที่ได้รับการหารืออย่างเปิดเผยและถูกระบุในข่าวสารนิเทศหลังการประชุมได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เข้มแข็งในการเป็นประธานอาเซียน๒๐๑๖ของลาว ในการประชุมครั้งนี้ นาย ทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาวได้เผยว่า ในฐานะเป็นประธานอาเซียน ลาวจะร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆผลักดันความร่วมมือระหว่างจีนกับอาเซียนเพื่อปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและมุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว ส่วนสิงคโปร์ก็ได้เสนอข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการเผชิญหน้าอย่างไม่คาดฝันทางทะเลหรือCUESเพื่อลดความตึงเครียดในทะเลตะวันออก ในฐานะเป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-จีนในปี๒๐๑๖ สิงคโปร์ยังให้คำมั่นที่จะผลักดันการบรรลุซีโอซีเพื่อช่วยให้ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความตึงเครียดและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะ
ปัญหาทะเลตะวันออกเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากอาเซียน
|
ความสามัคคีและส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
สถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า ปัญหาทะเลตะวันออกได้สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากต่อประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับประโยชน์จากการค้ำประกันความปลอดภัยและความมั่นคงในเขตทะเลนี้ การขยายปฏิบัติการทางทหารในเขตทะเลที่มีการพิพาทกำลังคุกคามต่อเสถียรภาพในภูมิภาค
แน่นอนว่า ปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกกำลังเป็นหนึ่งในปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอาเซียนแต่อาเซียนต้องทำอย่างไรเพื่อมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาดัง กล่าว ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด เมื่ออาเซียนได้รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวและมีชะตากรรมร่วมกัน ความสามัคคีในอาเซียนได้กลายเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้อาเซียนกำหนดแนวทางการพัฒนาในภูมิภาคและมีส่วนร่วมแก้ไขความท้าทายต่างๆในทั่วโลก.