 นาย Lim Jock Hoi เลขาธิการอาเซียน (Photo VGP) |
ในเวลาที่ผ่านมา ความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชนอาเซียนได้รับการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน โดยในระเบียบวาระการประชุมและฟอรั่มต่างๆ นี่คือเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ อาเซียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เทคโนโลยีและแหล่งพลังต่างๆ รวมทั้งฝึกอบรมด้านวิชาชีพเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบริการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชน
รับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 อย่างเข้มแข็ง
ในสภาวการณ์ที่โควิด – 19 กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในประเทศจีนและหลายประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งการพัฒนาของบรรดาประเทศอาเซียน ผู้นำอาเซียนได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่ยืนยันคำมั่นอย่างเข้มแข็งว่า จะร่วมมือควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้และปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อาเซียนย้ำว่า จะประสานงานมากขึ้นทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค มีการประสานงานเชิงวิชาการเพื่อบรรลุความเห็นพ้องเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึงอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพของประชาคมอาเซียน รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก กับหุ้นส่วนและองค์กรระหว่างประเทศเพื่อรับมือและควบคุมการแพร่ระบาด แถลงการณ์ยังยืนยันความสามัคคีและการสนับสนุนอย่างเข้มแข็งของอาเซียนและประชาคมโลกในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 บรรดาประเทศอาเซียนได้เห็นพ้องประสานงานในการตรวจสุขภาพที่จุดผ่านแดนของประเทศสมาชิก เรียกร้องให้สำนักงานตัวแทนด้านต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนในประเทศต่างๆที่เกิดการแพร่ระบาด ให้การช่วยเหลือประชาชนอาเซียน
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนจำกัดวง ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านกลาโหมของอาเซียนเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 นาย Lim Jock Hoi เลขาธิการอาเซียนแสดงความคิดเห็นว่า “แม้การแพร่ระบาดของโควิด – 19 มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีนแต่เราเห็นว่า รายงานของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ซึ่งเป็นประธานอาเซียนปี 2020 และแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงความสามัคคี การสนับสนุนและการประสานงานปฏิบัติในอาเซียนเพื่อรับมือปัญหารุนแรงที่เกี่ยวข้องถึงสุขภาพของประชาชนอาเซียน เพื่อสะท้อนการสนับสนุนของอาเซียนในการรักษาสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน”
ส่งเสริมบทบาทประธานอาเซียน 2020
ในฐานะประธานอาเซียน 2020 เวียดนามได้กำหนดวิธีรับมือความท้าทายของการแพร่ระบาดของโควิด – 19 คือหนึ่งในหน้าที่สำคัญที่สุด โดยนับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาด เมื่อวันที่ 30 มกราคม ในฐานะประธานสภาผู้ประสานอาเซียน นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งจดหมายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนทุกท่านเพื่อเสนอมาตรการประสานงานรับมือการแพร่ระบาด และเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊ก ในฐานะประธานอาเซียน 2020 ได้หารือกับผู้นำของทุกประเทศสมาชิกแล้วออกแถลงการณ์ของประธานอาเซียนเกี่ยวกับการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 วันที่ 20 กุมภาพันธ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้เรียกประชุมสภาผู้ประสานงานอาเซียนเพื่อให้รัฐมนตรีแลกเปลี่ยนข้อมูลและหารือมาตรการรับมือ การเป็นฝ่ายรุกของเวียดนามในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ในฐานะประธานอาเซียนได้รับคำชื่นชมจากประเทศสมาชิกอาเซียน แถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ก็ได้รับการจัดทำและอนุมัติอย่างรวดเร็วผ่านคำแนะนำของเวียดนามโดยได้รับคำชื่นชมจากเลขาธิการอาเซียนว่า สอดคล้องกับหัวข้อของปีอาเซียน 2020 ที่เวียดนามเสนอคือ “ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” “จำเป็นต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัวในทุกปัญหา รวมทั้งการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด – 19 หวังว่า จากนี้เราสามารถจัดทำโครงการปฏิบัติร่วมที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและสาธารณสุข กองทัพมีบทบาทสำคัญในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ซึ่งยกตัวอย่างเช่น ศูนย์เสนารักษ์ ภายใต้คำแนะนำของเวียดนาม แถลงการณ์ร่วมเอดีเอ็มเอ็มถูกร่างและได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วหลังการหารือเพียง 1-2 วันเท่านั้น ผมก็รอคอยการประชุมนัดต่อๆไปของอาเซียนภายใต้อำนวยการของเวียดนามในฐานะประธานอาเซียนปี 2020”
ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโควิด – 19 หน้าที่ที่เร่งด่วนของอาเซียนในเวลาข้างหน้าคือพิจารณาจัดการฝึกซ้อมเพื่อรับมือภาวะที่การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น อาเซียนมีประสบการณ์รับมือการแพร่ระบาดของโรค SARS เมื่อปี 2003 และกำลังพยายาม ร่วมปฏิบัติและประสานงานกับประชาคมโลกเพื่อรักษาสุขภาพให้แก่ประชาชนและธำรงความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค.