อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับซีเรีย ณ เมืองเจนีวา

Chia sẻ
(VOVWORLD) -เมื่อวันที่28พฤศจิกายน ณ เมืองเจนีวา  ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้มีการจัดการเจรจารอบที่8เพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาของซีเรียภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติ ซึ่งบรรดาผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้ตั้งความหวังมากเกินไปต่อความคืบหน้าของการเจรจาดังกล่าวเนื่องจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องยังมีความขัดแย้งกัน 
อุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในการเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับซีเรีย ณ เมืองเจนีวา  - ảnh 1นาย Nasr al- Hariri หัวหน้ากลุ่มฝ่ายค้านในซีเรีย (Photo: Youtube) 

หลังจากที่สงครามกลางเมืองในซีเรียเกิดขึ้นเมื่อปี2011  ได้มีการจัดการเจรจาเกี่ยวกับสันติภาพในซีเรียรวม7รอบภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาแต่การเจรจาครั้งต่างๆยังไม่สามารถบรรลุผลงานตามความคาดหวังได้  ซึ่งอนาคตของประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัล-อัสซาด ถือเป็นปมปัญหาความขัดแย้งที่ใหญ่ที่สุด โดยกลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียและประเทศมหาอำนาจได้เรียกร้องให้นาย บาชาร์ อัล-อัสซาด ต้องลาออกจากตำแหน่ง

  ก่อนการเจรจาครั้งนี้ ตัวแทนของสหประชาชาติเกี่ยวกับซีเรียได้เผยว่า การต่อต้านการก่อการร้ายในซีเรียใกล้จะเสร็จสิ้นลงและนี่เป็นช่วงเวลาเพื่อเริ่มกระบวนการทางการเมือง  พร้อมทั้ง ย้ำถึงความสำคัญของการลดความตึงเครียดในภูมิภาค  คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เรียกร้องให้รัฐบาลซีเรียและกลุ่มฝ่ายค้านเข้าร่วมการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไข

2เนื้อหาหลัก

การเจรจาสันติภาพเกี่ยวกับปัญหาของซีเรียภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติเน้นถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญ  นี่เป็น2ปัญหาหลักในจำนวน4ปัญหาที่ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการเจรจารอบต่างๆ ณ เมืองเจนีวา  โดยนาย Ramzi Ezzedine Ramzi รองทูตพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาของซีเรียได้ให้ข้อสังเกตว่า กระบวนทางการเมืองในซีเรียประสบอุปสรรคมากมายและมีความซับซ้อน  ดังนั้น สหประชาชาติกำลังวางยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ

ก่อนการเจรจาสันติภาพรอบที่8 นาย สตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ทูตพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาของซีเรียได้ให้ข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุกระบวนการทางการเมืองที่จริงจัง  ในระหว่างการเตรียมความพร้อมให้แก่การเจรจา นาย สตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ได้เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆจัดกิจกรรมทางการทูต  โดยเน้นถึงปัญหาต่างๆ เช่น รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องเป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพเจนีวา โดยปราศจากเงื่อนไข ให้การสนับสนุนความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการช่วยเหลือกระบวนการไกล่เกลี่ยของสหประชาชาติ

ประเทศต่างๆก็ได้แสดงการสนับสนุนการเจรจาครั้งนี้ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ได้ย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาของซีเรีย ณ เมืองเจนีวา โดยเผยว่า นี่เป็นมาตรการเดียวเพื่อแก้ไขวิกฤตในปัจจุบัน  สหรัฐจะประสานงานกับรัสเซียเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรีย  ในขณะเดียวกัน บรรดานักการทูตในสหประชาชาติได้แสดงความหวังว่า การเจรจา ณ เมืองเจนีวาจะบรรลุผลงานที่น่ายินดีเนื่องจากฝ่ายค้านในซีเรียได้จัดตั้งคณะกรรมการเจรจาหลังการประชุม ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย  โดยเห็นว่า ปฏิบัติการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมความสำคัญของกระบวนการสันติภาพ ณ เมืองเจนีวาและสร้างโอกาสใหม่ให้แก่กระบวนการนี้

อุปสรรคในเบื้องต้น

  ถึงแม้สหประชาชาติตั้งความหวังต่อการเจรจาครั้งนี้แต่ก่อนการเจรจาดังกล่าว คณะผู้แทนของรัฐบาลซีเรียได้ประกาศเลื่อนการเดินทางไปยังเมืองเจนีวาเนื่องจากไม่พอใจต่อคำประกาศของกลุ่มฝ่ายค้านที่คงคำเรียกร้องให้ประธานาธิบดี บาซาร์ อัลอัสซาด ต้องลาออกจากตำแหน่งเพื่อเริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในซีเรีย  หนังสือพิมพ์ประชาชาติของซีเรียฉบับวันที่29พฤศจิกายนได้รายงานว่า  ในท้ายที่สุด คณะเจรจาของรัฐบาลซีเรียได้ยอมเข้าร่วมการเจรจารอบที่8เกี่ยวกับปัญหาซีเรียโดยมีเงื่อนไขต่างๆ  เช่น ไม่เข้าร่วมการเจรจาโดยตรงกับฝ่ายค้านและจะหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงการเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญเท่านั้น นอกจากนี้  รัฐบาลซีเรียก็ได้ประกาศหยุดยิงในเขตGhoutaตะวันออก

ในขณะเดียวกัน ฝ่ายค้านได้ประกาศพร้อมที่จะทำการเจรจากับรัฐบาลซีเรียแต่ยังคงยืนกรานให้ประธานาธิบดี บาซาร์ อัลอัสซาด ต้องลาออกจากตำแหน่งก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในซีเรีย  นาย Nasr al- Hariri หัวหน้ากลุ่มฝ่ายค้านในซีเรียได้เผยว่า เป้าหมายของพวกเขาคือการลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดี  บาซาร์ อัลอัสซาด  พร้อมทั้ง ชี้ชัดว่า การเจรจาต้องบรรลุเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมคือการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองและทุกหัวข้อต้องได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือ  รวมทั้ง อนาคตของประธานิบดี บาซาร์ อัลอัสซาด

ถึงแม้รัฐบาลซีเรียเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพช้ากำหนดกว่า1วันแต่นายนาย สตาฟฟาน เดอ มิสตูรา ทูตพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาของซีเรียยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะมีการเจรจาโดยตรงระหว่างรัฐบาลซีเรียกับฝ่ายค้านหรือมีแค่การพบปะผ่านคนกลางเท่านั้น

การต่อต้านการก่อการร้ายในซีเรียใกล้จะเสร็จสิ้นลง  การจัดการเจรจารอบที่8เกี่ยวกับปัญหาของซีเรียถือเป็นโอกาสเพื่อแสวงหามาตรการฟื้นฟูซีเรียในช่วงหลังสงครามแต่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆเกี่ยวกับปัญหาหลักได้แสดงให้เห็นว่า การเจรจาครั้งนี้ยากที่จะบรรลุก้าวกระโดดได้  ดังนั้น ซีเรียยังต้องมีการเจรจารอบใหม่เพื่อช่วยสนับสนุนกระบวนการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองในประเทศนี้.

Feedback