 รัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน (VNA) |
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 ได้ระบุอย่างชัดเจนถึงการ "ส่งเสริมบทบาทเป็นผู้เดินหน้าของการต่างประเทศต่อไป" ในการปฏิบัติเป้าหมาย 3 ประการคือ "การสร้างสรรค์และรักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพ" "ระดมแหล่งพลังจากภายนอกเพื่อพัฒนาประเทศ และ "ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของประเทศ" วัตถุประสงค์สูงสุดของนโยบายด้านการต่างประเทศคือมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์จนถึงปี 2025 ปี2030 และปี 2045
มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและกว้างขวางมากขึ้นในด้านการมีส่วนร่วม
ข้อกำหนดที่วางไว้สำหรับการต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานการทูตในระยะใหม่คือเป็นฝ่ายรุก มีความกระตือรือร้น ครอบคลุม กว้างขวาง คล่องตัว มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เนิ่นๆและจากระยะไกลด้วยเป้าหมายคือมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและกว้างขวางมากขึ้นต่อด้านและกองกำลังที่เข้าร่วม มีการประสานงานที่พร้อมเพรียงและใกล้ชิดมากขึ้น และเป็นฝ่ายรุกมากขึ้นในการปฏิบัติ ซึ่งบนพื้นฐานนี้ สำหรับหน้าที่หลักของหน่วยงานการทูตในปี 2022 และปีต่อๆไป รัฐมนตรีต่างประเทศ บุ่ยแทงเซิน ได้เผยว่า
“ปฏิบัติหน้าที่รักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการยืนหยัดปกป้องอธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ระดมแหล่งพลังจากภายนอกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และยกระดับสถานะของประเทศให้สูงเด่นบนเวทีโลก ขยายและกระชับความสัมพันธ์ด้านต่างประเทศให้ลึกซึ้งมากขึ้น โดยเน้นประเทศเพื่อนบ้าน หุ้นส่วนสำคัญและเพื่อนมิตรเก่าแก่ ส่งเสริมบทบาทของเวียดนามในกลไกพหุภาคีที่สำคัญ เช่น อาเซียน สหประชาชาติ เอเปกและความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง”
ในปี 2022 การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงมีความผันผวนอย่างซับซ้อน การทูตของเวียดนามยังคงส่งเสริมความร่วมมือ ใช้การสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศในการป้องกันและควบคุมโรคระบาด และส่งเสริมการฟื้นตัวและการพัฒนาเศรษฐกิจ- สังคม ในปี 2022 ด้วยคำขวัญ "เคร่งครัด เปลี่ยนแปลงใหม่ เป็นฝ่ายรุกในการรับมือ มีประสิทธิภาพและมีความคิดสร้างสรรค์" การทูตทางเศรษฐกิจมีภารกิจหลักสามประการ ได้แก่ มีส่วนร่วมต่อการฟื้นตัวและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการเติบโต รัฐมนตรี บุ่ยแทงเซิน ชี้ชัดว่า
“เรากำหนดการสร้างสรรค์การทูตเศรษฐกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโดยถือคนในท้องถิ่นและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง ที่ชัดเจนก็คือ การทูตทางเศรษฐกิจสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุน การประสานงานอย่างใกล้ชิดและการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของท้องถิ่น สถานประกอบการ โดยเฉพาะสำนักงานตัวแทนของเวียดนามในต่างประเทศ ใช้ปัจจัยระหว่างประเทศที่สะดวก คำมั่น ข้อตกลงระหว่างประเทศ รวมทั้งข้อตกลงเอฟทีเอที่ได้ลงนามเพื่อระดมแหล่งพลังจากภายนอก ประสานกับความมีประสิทธิภาพของแหล่งพลังภายในประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน”
 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (baoquocte.vn) |
การต่างประเทศพหุภาคียืนยันสถานะและตำแหน่งใหม่ของเวียดนามบนเวทีระหว่างประเทศ
การต่างประเทศพหุภาคีของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาได้บรรลุผลงานที่สำคัญ โดยเฉพาะเวียดนามเพิ่งเสร็จสิ้นการดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ผลงานที่ได้บรรลุในวาระนี้น่าภาคภูมิใจมาก โดยไม่เพียงแต่ส่งเสริมการให้ความเคารพกฎหมายและปฏิบัติการพหุภาคีตามกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น หากเวียดนามยังสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพัฒนาอีกด้วย ในการประชุมสรุปผล 2 ปีเวียดนามดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้สั่งให้กิจกรรมการต่างประเทศในเวลาที่จะถึงต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็งมากขึ้น มีส่วนร่วมกำหนดแนวทางในฟอรั่มพหุภาคีตามความสามารถ เป็นฝ่ายรุกในการเสนอความคิดริเริ่ม สร้างนิมิตหมาย ยกระดับสถานะและคุณค่าของเวียดนามในความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ
“ในระยะพัฒนาใหม่ งานด้านการต่างประเทศจะยังคงมีบทบาทเป็นผู้เดินหน้าในการรักษาบรรยากาศที่สันติภาพและเสถียรภาพ มีส่วนร่วมที่สำคัญต่อการปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดน ปฏิบัติเป้าหมายเพื่อภารกิจประชาชนมั่งคั่ง ประเทศเจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย มีความยุติธรรมและอารยธรรมเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและการพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองในสภาวการณ์ใหม่ สร้างหน่วยงานการต่างประเทศและการทูตที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของประชาชาติและเอกลักษณ์ของ "ต้นไผ่เวียดนาม" มีส่วนร่วมต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิมากขึ้น
ในสภาวการณ์ที่ประเทศกำลังต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์โลกที่มีความผันผวนอย่างซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ หน้าที่ของงานการต่างประเทศในปี 2022 นั้นหนักมากในขณะที่ยังคงต้องรักษาผลงานที่ได้บรรลุ อีกทั้งยังคงต้องใช้แหล่งพลังต่างๆเพื่อพัฒนา ไม่เพียงแต่สนับสนุนการส่งเสริมและการฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น หากการต่างประเทศยังมีหน้าที่ในการเผยแพร่จุดยืนของเวียดนามที่รักสันติภาพ มนุษยชาติ เคารพความยุติธรรมและความถูกต้อง มีความคล่องตัวและพร้อมมีความรับผิดชอบเพื่อสันติภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนในโลก.