สหรัฐและจีนพยายามธำรงความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพและควบคุมการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ

Quang Dung
Chia sẻ
(VOVWORLD) - วันที่ 15 พฤศจิกายน นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐมีการพบปะกับนาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีนในกรอบการประชุมผู้นำของฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐ นี่คือโอกาสสำคัญที่สามารถช่วยให้ทั้ง 2 ประเทศมหาอำนาจนี้ปรับปรุงความสัมพันธ์ที่กำลังต้องฝ่ามรสุมหลายด้านให้มีเสถียรภาพ และมุ่งสู่อนาคตของการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ
สหรัฐและจีนพยายามธำรงความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพและควบคุมการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ - ảnh 1นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกับนาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีน (AFP)

 

การพบปะระหว่างนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกับนาย สีจิ้นผิง ประธานประเทศจีน ณ เมืองซานฟรานซิสโก เป็นการพบปะโดยตรงครั้งที่ 2 ของผู้นำทั้ง 2 เศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของโลก ต่อจากการพบปะครั้งแรก ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เนื่องในโอกาสการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา การประชุม ณ เมืองซานฟรานซิสโก ได้รับการคาดหวังว่า จะช่วยให้ทั้งสองประเทศคลี่คลายความตึงเครียด ปรับปรุงความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพ และจัดทำวิธีการเข้าถึงใหม่เพื่อควบคุมความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญที่สุดในโลกปัจจุบันอย่างมีความรับผิดชอบ

ป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ

ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนนับจากการพบปะครั้งแรกเมื่อปีก่อนยังคงมีความตึงเครียดในเกือบทุกด้าน ในด้านเศรษฐกิจ ทางการของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้เพิ่มมาตรการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะไมโครชิป อีกทั้ง จัดทำกลไกควบคุมเงินลงทุนของบริษัทสหรัฐในประเทศจีนอย่างเข้มงวด ส่วนฝ่ายจีนได้ตอบโต้ด้วยมาตรการจำกัดทางธุรกรรมกับบริษัทสหรัฐและควบคุมการส่งออกวัตถุดิบสำคัญในด้านเทคโนโลยี

ในด้านการเมืองและการทูต เหตุการณ์บอลลูนของจีนที่ลอยเข้าไปยังน่านฟ้าของสหรัฐเมื่อต้นปีนี้ได้ส่งผลให้การพบปะระดับสูงระหว่างทั้งสองประเทศหยุดชะงักเป็นเวลานาน นอกจากนั้น การถกเถียงเกี่ยวกับการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครน สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในเอเชียตะวันออก และการแข่งขันชิงอิทธิพลในแปซิฟิกใต้ยังคงทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนตกเข้าสู่วิกฤต และค่อยๆ ก้าวไปสู่แนวโน้มของการเผชิญหน้า แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศตระหนักได้ดีถึงอันตรายของแนวโน้มนี้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงส่งเสริมความพยายามเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด โดยตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐหลายท่าน เช่น นายAntony Blinken รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ นาง Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และนาง Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปเยือนจีน ส่วนเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นาย หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้เดินทางไปเยือนสหรัฐ

ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการณ์ ทั้งสหรัฐและจีนต่างตระหนักได้ดีว่า การทวีความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศจะส่งผลกระทบในทางลบในหลายด้านต่อทั้งสองฝ่ายและต่อโลก นาย Jake Sullivan ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเผยว่า

“อาจมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นและมีความผันผวนอย่างซับซ้อนอยู่เสมอ คำถามคือเราสามารถสร้างช่องทางการสื่อสารและกรอบการประสานงานที่กว้างขึ้นให้แก่ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนได้หรือไม่ เพื่อที่ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรายังคงควบคุมการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ และไม่ปล่อยให้มันทวีเป็นการปะทะ”

สหรัฐและจีนพยายามธำรงความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพและควบคุมการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ - ảnh 2 นาย Jake Sullivan ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ (Getty Images )

แสวงหาโอกาสแห่งความร่วมมือ

กิจกรรมทางการทูตที่เข้มข้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมากำลังเกิดประสิทธิผล เนื่องจากสหรัฐและจีนได้ส่งสัญญาณว่า ทั้งสองประเทศยังคงมีศักยภาพเพื่อร่วมมือ ก่อนการพบปะระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐโจ ไบเดน กับประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นาง Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐและนาย เหอ ลี่เฟิง  รองนายกรัฐมนตรีของจีนได้หารือและมีความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงิน โดยสหรัฐและจีนตกลงที่จะธำรงการสื่อสาร มุ่งมั่นที่จะร่วมกันเพื่อรับมือปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หนี้สินของประเทศกำลังพัฒนา และเป้าหมายการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เท่าเทียมกันให้แก่สถานประกอบการของทั้งสองประเทศ

ก่อนหน้านั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐและจีนได้เปิดบริการเส้นทางบินตรงทุกเส้นทางระหว่างทั้งสองประเทศอีกครั้งเหมือนช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 เมื่อต้นปี 2020 นอกจากนี้ ในการประชุมระดับโลกด้านความปลอดภัยของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ครั้งแรกซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ณ อังกฤษ จีนได้เข้าร่วมและสนับสนุนแถลงการณ์เบล็ตช์ลีย์เกี่ยวกับความปลอดภัยของ AI ที่เสนอโดยประเทศตะวันตก นาง Fu Ying อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยว่า ท่าทีทั้งหมดดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การพบปะระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับประธานประเทศจีนสีจิ้นผิง จะเป็นขั้นตอนต่อไปในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนให้มีเสถียรภาพ

“ดิฉันยินดีที่ผู้นำทั้งสองประเทศพบปะกัน ณ เมืองซานฟรานซิสโก และการพบปะครั้งนี้ได้รับการคาดหวังในระดับสูง ดิฉันหวังว่า ผู้นำทั้งสองท่านจะสามารถตอบสนองความคาดหวังของโลกได้ นั่นคือการแสวงหาวิธีการสนทนาอย่างตรงไปตรงมาเพื่อปรับความสัมพันธ์ให้มีเสถียรภาพ จากนั้นเราจึงจะให้ความสนใจไปยังปัญหาที่สำคัญอื่นๆของโลกได้."

ตามแถลงการณ์ของทำเนียบขาว ทางการสหรัฐตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมสำหรับการพบปะระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน กับประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง ครั้งนี้ เช่น การชี้แจงจุดยืนของการแข่งขันที่เข้มข้นแต่มีความรับผิดชอบ การฟื้นฟูการติดต่อด้านกลาโหม และการหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการ AI  เป็นต้น รวมถึงถึงปัญหาระหว่างประเทศที่สำคัญๆ เช่น การปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครน  การปะทะระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี เป็นต้น.

Feedback