สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียด หรือ สหภาพโซเวียดเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรกๆที่รับรองและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม |
เมื่อวันที่ 30 มกราคมปี 1950 สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียด หรือเรียกย่อเป็น สหภาพโซเวียดเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มแรกที่ประกาศรับรองและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน นิมิตหมายแห่งประวัติศาสตร์นั้นได้สร้างพื้นฐานให้แก่ความสัมพันธ์มิตรภาพที่แน่นแฟ้นใกล้ชิดระหว่าง 2 ประชาชาติและความร่วมมืออย่างกว้างลึกในทุกด้านระหว่าง 2 ประเทศ
ผลความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่
จากการสานต่อผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือที่มีมาช้านาน ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับรัสเซียได้พัฒนาอย่างดีงามในหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยเมื่อปี 2001 เวียดนามและรัสเซียได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และเมื่อปี 2012 ได้ยกระดับให้เป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาความร่วมมือทวิภาคีในสภาวการณ์ใหม่
โดยจุดเด่นในความสัมพันธ์ด้านการเมืองระหว่างเวียดนามกับรัสเซียคือความไว้วางใจในระดับสูงและรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลาย โดยทั้ง 2 ประเทศได้จัดทำกลไกการประชุมระดับสูงประจำปี ส่วนในเวทีระหว่างประเทศ ทั้ง 2 ฝ่ายได้แลกเปลี่ยนทักศนะร่วม ประสานงานและสนับสนุนกันในฟอรั่มของสหประชาชาติ ฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก ฟอรั่มความร่วมมือเอเชีย-ยุโรป หรือ อาเซมและฟอรั่มภูมิภาคอาเซียน เป็นต้น
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับรัสเซียได้พัฒนาอย่างเข้มแข็งและคล่องตัว โดยเฉพาะหลังจากที่ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรปมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเมื่อปี 2018 ได้บรรลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.5 เมื่อเทียบกับปี 2017 รัสเซียอยู่อันดับ 24 ในกลุ่มประเทศและดินแดนที่ลงทุนในเวียดนาม โดยมีโครงการลงทุน 127 โครงการ รวมยอดเงินทุนกว่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเวียดนามมีโครงการลงทุนกว่า 20 โครงการในรัสเซีย รวมยอดเงินลงทุนเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพลังงานคือด้านความร่วมมือยุทธศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนานและทำรายได้เข้างบประมาณแผ่นดินของทั้ง 2 ประเทศในระดับสูง
สำหรับความร่วมมือด้านการศึกษาและฝึกอบรมนับวันยิ่งพัฒนามากขึ้น โดยสหภาพโซเวียดได้ช่วยเหลือเวียดนามอบรมเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆเกือบ 4 หมื่นคน และปัจจุบัน แต่ละปี รัสเซียได้มอบทุนการศึกษา 1 พันทุนให้แก่นักศึกษาเวียดนาม ส่วนความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศก็นับวันได้รับการขยาย โดยรัสเซียเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ชมรมชาวเวียดนามในประเทศรัสเซียเดินหน้าในการปฏิบัติกิจกรรมการกุศลและมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศเวียดนามอยู่เสมอ
รัสเซียสนับสนุนจุดยืนของเวียดนามเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกด้วยสันติวิธี ไม่ใช้ หรือ ข่มขู่ที่จะใช้กำลังบนพื้นฐานของกฎหมายสากล อนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 แถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและการผลักดันการจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว
นิมิตหมายที่สำคัญของความร่วมมือทวิภาคี
การเยือนประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกมีขึ้นในสภาวการณ์ที่เวียดนามและรัสเซียจะจัดปีเวียดนามในรัสเซีย ปี2019 และปีรัสเซียในเวียดนามปี 2020 ในโอกาสรำลึกครบรอบ 25 ปีการลงนามสนธิสัญญาว่าด้วยหลักการพื้นฐานของความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับรัสเซียและครบรอบ 70 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
ในกรอบการเยือนรัสเซียครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกและคณะฯจะร่วมกับนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมีตรี เมดเวเดฟและตัวแทนกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆของรัสเซียเป็นประธานและเข้าร่วมพิธีเปิดปีเวียดนามในรัสเซียและปีรัสเซียในเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกจะหารือในเชิงลึกกับผู้นำรัสเซียเกี่ยวกับแนวทางกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน โดยเฉพาะการขยายความเข้าใจระหว่างประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ สามารถยืนยันได้ว่า การเยือนประเทศรัสเซียของนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกพร้อมภริยาและคณะฯจะมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่าง 2 ประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ โดยเฉพาะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและความร่วมมือระดับท้องถิ่น ขยายความเข้าใจของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนรัสเซียเกี่ยวกับประเทศและคนเวียดนามเพื่อผลักดันสัมพันธไมตรีที่ใกล้ชิดและซื่อสัตย์ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ.