ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินและนาย Saber Chowdhury ประธาน IPU (ซ้่าย) |
กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี
ประเทศโมร็อกโกคือประเทศแรกในกรอบการเยือนต่างประเทศครั้งนี้ของประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินและเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 14ปีที่ผ่านมาของผู้นำรัฐสภาเวียดนาม ซึ่งการเยือนนี้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ด้านการเมืองระหว่าง 2 ประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการผสมและการประชุมทาบทามความคิดเห็นทางการเมืองเวียดนาม-โมร็กโก การประสานงานและสนับสนุนกันในฟอรั่มระหว่างประเทศ ซึ่งหลังจากได้รับเลือกเป็นประธานสภาล่างโมร็อกโกเมื่อปลายปี 2017 นาย Habib El Malki ได้เลือกเวียดนามเป็นประเทศแรกในการเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ โอกาสนี้ ประธานสภาแห่งชาติเวียดนามและประธานสภาล่างโมร็อกโกได้ลงนามในบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สภาแห่งชาติเวียดนามได้ลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือกับรัฐสภาของประเทศในทวีปแอฟริกา
บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานและดีงาม ในกรอบการเยือนประเทศโมร็อกโกครั้งนี้ ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินจะหารือถึงมาตรการกระชับความร่วมมือด้านนิติบัญญัติ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ธนาคาร พลังงาน ความร่วมมือในระดับท้องถิ่นและความร่วมมือไตรภาคีระหว่างเวียดนาม โมร็อกโกและอีกหนึ่งประเทศในแอฟริกา นาย Azzeddine Farhane เอกอัครราชทูตโมร็อกโกประจำเวียดนามได้ประเมินศักยภาพความสัมพันธ์เวียดนาม-โมร็อกโกว่า“โมร็อกโกและเวียดนามกำลังมุ่งสู่อนาคตที่สดใสและความร่วมมือที่เต็มไปด้วยศักยภาพ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้ฟันฝ่าปัญหาด้านภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมเพื่อผลประโยชน์และความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนโมร็อกโกและเวียดนาม”
ต่อจากการเยือนประเทศโมร็อกโก ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินจะเดินทางไปเยือนประเทศฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ และนี่ถือเป็นการเยือนฝรั่งเศสครั้งแรกของผู้นำรัฐสภาเวียดนามในรอบ11ปี โดยการเยือนนี้มีขึ้นหลังการเยือนฝรั่งเศสของเลขาธิการใหญ่พรรคเหงวียนฟู้จ่องเมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 และการรำลึกครบรอบ 45ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส ดังนั้นจึงมีความหมายสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ปฏิบัติผลการเยือนฝรั่งเศสของเลขาธิการใหญ่พรรคเหงวียนฟู้จ่องและแปรแถลงการณ์ร่วมระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศเกี่ยวกับความร่วมมือด้านนิติบัญญัติให้เป็นรูปธรรม
ส่งเสริมความสัมพันธ์พหุภาคี
ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสภาแห่งชาติเวียดนามกับรัฐสภายุโรป หรือ อีพีคือหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอียู ซึ่งการพบปะต่างๆ การแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนและการสนทนาอย่างตรงไปตรงมา ได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน ดังนั้น สำหรับการเยือนรัฐสภายุโรปครั้งแรกในรอบ 8ปีของประธานสภาแห่งชาติเวียดนามก็เป็นการยืนยันถึงการสนับสนุนของสภาแห่งชาติเวียดนามต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอียู การเยือนอีพีครั้งนี้ยังมีวัตถุประสงค์โน้มน้าวให้ผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอีพีอนุมัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-อียู หรือ EVFTA ก่อนที่คณะผู้บริหารอีพีชุดปัจจุบันจะหมดวาระ นาย Bernd Lange ประธานคณะกรรมาธิการดูแลด้านการค้าระหว่างประเทศของรัฐสภายุโรปได้ประเมินเกี่ยวกับศักยภาพของ EVFTA ในโอกาสการเยือนเวียดนามเมื่อปี 2018 ว่า“EVFTA จะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจและการขยายตัวในอนาคตของเวียดนาม ผมหวังว่า เวียดนามและอียูจะให้คำมั่นในปัญหาต่างๆที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันให้อีพีอนุมัติ EVFTA ในวาระนี้”
หลังการเยือนประเทศฝรั่งเศส ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินจะเดินทางไปเยือนประเทศกาตาร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกครั้งที่ 140 หรือ IPU 140 ซึ่งการเข้าร่วม IPU 140เป็นการยืนยันถึงคำมั่นของเวียดนามในการเข้าร่วมกิจกรรมการทูตพหุภาคีในเชิงรุกอย่างเข้มแข็งและมีส่วนร่วมยกระดับกิจกรรมการทูตพหุภาคีของเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เข้มแข็ง การเป็นฝ่ายรุกในการแก้ไขความท้าทายต่างๆในภูมิภาคและโลกและการส่งเสริมบทบาทเป็นรองประธาน IPU วาระปี2018-2019 ของเวียดนาม
ดังนั้น นอกเหนือจากการทูตภาครัฐและการทูตประชาชน การทูตรัฐสภาก็เป็นอีกช่องทางที่สำคัญ ซึ่งการผลักดันการทูตรัฐสภาในปี 2019 และจากกิจกรรมต่างๆของประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิถิมเงินครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การทูตรัฐสภากำลังมีส่วนร่วมยกระดับสถานะของเวียดนามให้สูงเด่นยิ่งขึ้นบนเวทีโลก.