ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซีย

Pham Ha, Le Phuong
Chia sẻ
(VOVWORLD) - วันที่ 11 มกราคม นาย โจโก วีโดโด  ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย จะเริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 11-13 มกราคมตามคำเชิญของนาย หวอวันเถือง ประธานประเทศ การเยือนนี้เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมให้ความความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม- อินโดนีเซียมีความลึกซึ้งมากขึ้นต่อไป อีกทั้ง เป็นโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศใช้ประโยชน์จากโอกาสและศักยภาพความร่วมมือต่าง ๆ
ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซีย - ảnh 1นาย โจโก วีโดโด  ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย (AFP)

 

นี่คือครั้งที่ 2 ที่นาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการหลังจากการเยือนเวียดนามเมื่อเดือนกันยายนปี 2018 การเยือนครั้งนี้มีส่วนร่วมกระชับสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียที่ได้รับการทำนุบำรุงมาเป็นเวลาเกือบ 70 ปีคือตั้งแต่ปี 1955 จนถึงปัจจุบัน

กระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซียให้ลึกซึ้งมากขึ้น

ในเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียยังคงพัฒนาอย่างเข้มแข็งต่อไป ซึ่งแสดงให้เห็นผ่านการเยือนและการพบปะระดับสูง เช่น การพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกับนาย โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2022 การเยือนอินโดนีเซียของนาย เหงียนซวนฟุก ประธานประเทศ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2022 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน 3 ครั้ง ณ ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนเมษายนปี 2021 เดือนพฤษภาคมและเดือนกันยายนปี 2023 ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ เยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการและเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่รัฐสภาอาเซียนหรือAIPA ครั้งที่ 44 เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2023   การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ในปีนี้จะเป็นนิมิตหมายที่สำคัญบนเส้นทางแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซีย สำหรับความหมายของการเยือนครั้งนี้ นาย ตะวันทง  เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอินโดนีเซียได้ย้ำว่า

การเยือนครั้งนี้เป็นการสานต่อคำมั่นทางการเมืองของผู้นำทั้งสองฝ่ายเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ตลอดจน เสริมสร้างความสัมพันธ์ความร่วมมือในทุกด้านระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ การเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด มีขึ้นในต้นปีนี้ ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของประธานาธิบดีอินโดนีเซียในช่วงปีใหม่ และเป็นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำต่างประเทศในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหมายที่สำคัญในปีใหม่ด้วยกิจกรรมการต่างประเทศมากมายของพรรคและรัฐเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ความร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับประเทศเพื่อนมิตรและทุกประเทศทั่วโลก”

ส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซีย - ảnh 2นาย ตะวันทง  เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำอินโดนีเซีย

โอกาสและศักยภาพความร่วมมือมากมายระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซีย

พร้อมกับความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีก็เป็นหนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของความสัมพันธ์เวียดนาม-อินโดนีเซียในเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะ หลังจากที่ทั้งสองประเทศเข้าสู่ระยะฟื้นฟูหลังวิกฤตโควิด-19 ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีก็มีการเติบโตที่น่าประทับใจ บรรลุผลงานใหม่ๆตามแนวทางที่สมดุลมากขึ้น อินโดนีเซียเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 และเป็นตลาดนำเข้ารายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนามในอาเซียนในปี 2023 โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นจาก 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 ขึ้นเป็น 1 หมื่น 4  พัน 1 ร้อย 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022

นอกจากนี้ ภาคการลงทุนยังมีการฟื้นตัวอย่างน่ายินดี โดยจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ยอดเงินลงทุนของอินโดนีเซียในเวียดนามบรรลุ 651.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่อันดับที่ 29 จาก 143 ประเทศและดินแดนที่มีเงินลงทุนในเวียดนาม กลุ่มบริษัทและบริษัทหลายแห่งของอินโดนีเซียกำลังลงทุนและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม เช่น Ciputra, Traveloka, Gojek, PT Vietmindo Energitama, Jafpa Comfeed Vietnam และ Semen Indonesia Group ในขณะเดียวกันก็มีสถานประกอบการและกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของเวียดนามที่กำลังประกอบธุรกิจในอินโดนีเซีย เช่น FPT และ Dien May Xanh อีกทั้งยังมีสถานประกอบการที่กำลังเตรียมพร้อมลงทุนในอินโดนีเซีย เช่น บริษัท Green Taxi ของกลุ่มบริษัท Vingroup, Vinfast Global กลุ่มบริษัทเวียดท้าย บริษัทรองเท้าท้ายบิ่ง และบริษัทหุ้นส่วนถ่วนหาย เป็นต้น

ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองประเทศตกลงที่จะส่งเสริมการค้าทวิภาคีต่อไปโดยตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุ 1 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 ตามแนวทางที่สมดุลมากขึ้น เอกอัครราชทูต ตะวันทง เผยว่า

“เป้าหมายที่ผู้นำของทั้งสองประเทศได้กำหนดไว้มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติ เนื่องจาก มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงเติบโตเกือบร้อยละ 10 ต่อปี ในสภาวการณ์ที่การค้าของเศรษฐกิจโลกลดลงและประสบความยากลำบากมากมาย นอกจากนั้น ประชากรของทั้งสองประเทศคิดเป็นเกือบร้อยละ 60  ของประชากรอาเซียนซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก เพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมจัดการประชุมคณะกรรมการผสมรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและการค้าครั้งที่ 8 เพื่อเสนอมาตรการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายมากขึ้นต่อไป นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังเป็นสมาชิกของเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ AFTA และสมาชิกของข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP ดังนั้น จึงมีเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ”

นอกจากความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจที่มีมาช้านานแล้ว เช่น การเกษตรและสัตว์น้ำ ปัจจุบัน เวียดนามและอินโดนีเซียกำลังหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น อาหารฮาลาล เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัลและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ การท่องเที่ยวยังถือเป็นด้านที่เต็มไปด้วยศักยภาพเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในเวลาที่จะถึง

สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความไว้วางใจคือพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อให้กรอบความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซียพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพในทุกด้าน ดังนั้นการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด จะสร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างแน่นอน.

Feedback