(Photo:Vietnamplus) |
เวียดนามและสหรัฐได้ผ่านสงครามที่รุนแรง โดยมีประชาชนนับล้านคนเสียชีวิตและเลือดเนื้อ ซึ่งเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะผลร้ายจากสงครามยังคงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อคนเวียดนามหลายรุ่น นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศปรับความสัมพันธ์ทางการทูตให้เป็นปกติจนถึงปัจจุบัน การแก้ไขผลร้ายจากสงคราม เช่นการค้นหาทหารที่สูญหาย อัฐิทหาร การเก็บกู้ระเบิดและการชะล้างสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินถือเป็นหนึ่งในเนื้อหาความร่วมมือที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆระหว่างสองประเทศ
จุดเด่นของการเปลี่ยนความสัมพันธ์ในอดีตจากศัตรูมาเป็นมิตร
นับตั้งแต่สงครามเวียดนามยุติลง ได้ส่งมอบอัฐิทหารสหรัฐเกือบ 700 ชุดให้แก่สหรัฐ ส่วนรัฐบาลสหรัฐและองค์การทหารผ่านศึกก็ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเวียดนามเพื่อจัดสรรข้อมูลเกี่ยวกับทหารเวียดนามที่สูญหายในสงคราม ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกองกำลังต่างๆของทั้งสองประเทศในความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสมานแผลสงครามและแก้ไขผลร้ายจากสงคราม และมีส่วนร่วมสร้างความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ ซึ่งนี่คือจุดเด่นและจุดเริ่มต้นที่ดีในกระบวนการปรับเปลี่ยนจากศัตรูในอดีตมาเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านในปัจจุบันของทั้งสองประเทศ
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน เมื่อเร็วๆนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐ ห่ากิมหงอก ได้มอบ DVD ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับกระบวนการค้นหาอัฐิของนาย James B.Mills พี่ชายของนาง Ann Griffiths ประธานสมาพันธ์แห่งชาติครอบครัวของเชลยศึกและชาวอเมริกันที่สูญหายเนื่องจากนาย James B.Mills เป็นทหารอเมริกันและได้เสียชีวิตในสงครามเวีียดนาม นาง Ann Griffiths ได้แสดงความตื้นตันใจและมีความสุขที่สามารถค้นหาอัฐิของพี่ชายจนพบภายหลังใช้ความพยายามนานถึง 24 ปี “ถึงแม้จะมีความหวังไม่เยอะ แต่ครอบครัวและพ่อแม่ดิฉันก็ไม่เคยคิดว่า ความหวังจะเป็นจริง ดิฉันรู้สึกแปลกใจและมีความสุขเมื่อได้รับข่าวนี้ โดยเฉพาะได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชาย พี่ชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 กันยายนปี 1966 ดิฉันคิดว่า นี่คือความรู้สึกร่วมของครอบครัวชาวสหรัฐที่มีญาติมิตรสูญหาย พวกเขาอยากทราบว่า เกิดอะไรขึ้นและไม่อยากรออย่างไร้ความหวัง นี่คือการพิสูจน์ต่อโลกว่า แม้จะเคยเป็นศัตรู แต่สหรัฐและเวียดนามก็สามารถหันมาร่วมมือและพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีเหมือนปัจจุบัน”
ความรู้สึกของนาง Ann Griffiths ก็เช่นเดียวกับความรู้สึกของครอบครัวสหรัฐหลายๆครอบครัวที่ต้องการให้ญาติกลับบ้าน จากความร่วมมือและนโยบายด้านมนุษยธรรมของเวียดนาม เพราะเพื่อบรรลุผลงานนี้ ทั้งสองฝ่ายต้องกล้าเอาชนะตนเองเพื่อยืนหยัดปฏิบัติงาน ใช้สติปัญญาไหวพริบ มีวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์และมีความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ต่ออนาคตที่สดใสของสองประเทศและสองประชาชาติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม เหงียนชี้หวิ่ง เคยแสดงความเห็นว่า “กระทรวงกลาโหมสหรัฐชื่นชมความร่วมมือของเวียดนามในการค้นหาชาวอเมริกันที่สูญหายในสงคราม อาจกล่าวได้ว่า นี่คือหนึ่งในความร่วมมือที่พวกเรามีความภาคภูมิใจ พวกเราปฏิบัติงานนี้ด้วยจิตใจแห่งมนุษยธรรม ความรับผิดชอบและสร้างความไว้วางใจเพื่อผลักดันความร่วมมือกับสหรัฐ”
เขียนประวัติศาสตร์อนาคตเวียดนาม-สหรัฐต่อไป
การแก้ไขผลร้ายจากสงครามคือหนึ่งในเนื้อหาหลักของความร่วมมือด้านกลาโหมเวียดนามและสหรัฐในปัจจุบัน ในเวลาที่ผ่านมา นอกจากความพยายามค้นหาทหารที่สูญหายแล้ว ทั้งสองฝ่ายได้เสร็จสิ้นการชะล้างสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในสนามบินดานังและเริ่มทำการชะล้างสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในสนามบินเบียนหว่าและด่งนาย ทั้งเวียดนามและสหรัฐต่างเห็นพ้องกันว่า นี่คือเนื้อหาร่วมมือที่นำผลประโยชน์มาสู่ทั้งสองฝ่ายพร้อมกับเนื้อหาอื่นๆที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เช่นการค้า ความร่วมมือด้านความมั่นคง ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น เพราะนี่ไม่เพียงแต่เป็นการแก้ไขผลร้ายจากอดีตเท่านั้น หากเป็นการสร้างพื้นฐานความไว้วางใจให้แก่อนาคตความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายอีกด้วย
ในกรอบการเยือนและการพบปะทิวภาคีต่างๆ บรรดาผู้นำของสหรัฐได้กล่าวถึงปัญหานี้ และยืนยันว่า จะร่วมมือและปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ต่อไปเพื่อให้การช่วยเหลือเวียดนามแก้ไขผลร้ายจากสงคราม การสัมมนา “แก้ไขผลร้ายจากสงคราม-ระยะทางแห่งการไกล่เกลี่ยและความร่วมมือเพื่ออนาคตระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐจะเป็นก้าวเดินต่อไปเพื่อสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐที่กำลังพัฒนา.