|
การประชุมของคณะกรรมการศาสนาของรัฐบาลเวียดนาม( Photo:Internet) |
( VOVworld) – หลังจากที่ปฏิบัติมติที่1940มาเป็นเวลา๓ปี ทางการปกครองทุกระดับได้ให้ความสนใจถึงความต้องการด้านที่พักอาศัย และที่ดินขององค์กรศาสนาต่างๆซึ่งเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อจัดตั้งศาสนสถานและประกอบศาสนกิจโดยได้แก้ไขอุปสรรคในการจดทะเบียนและออกใบอนุญาตรับรองการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ศาสนสถานต่างๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่านNguyễn Xuân Phúc รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เผยว่า ในอนาคต เวียดนามจะปฏิบัติแนวทางของรัฐบาลเกี่ยวกับที่พักอาศัยและที่ดินที่เกี่ยวข้องกับศาสนาต่อไปโดยจะไม่ปล่อยให้เกิดการร้องเรียนและประสานกับท้องถิ่นต่างๆจัดสรรที่พักอาศัยและที่ดินให้แก่องค์กรศาสนาและสั่งให้ท้องถิ่นทำสถิติที่พักอาศัยและที่ดินที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเป็นประจำ ท่านNguyễn Xuân Phúc กล่าวว่า“ในเวียดนามที่ดินเป็นปัจจัยเพื่อการผลิตโดยรัฐบริหารมิใช่ของบุคคลหนึ่งบุคลใดแต่รัฐให้ความสนใจถึงความต้องการที่ชอบด้วยกฏหมาย มีการกำหนดขอบเขต มีใบอนุญาตและปฏิบัติตามกฏหมายของประชาชน” มติที่01ของนายกรัฐมตรีที่ประกาศใช้เมื่อปี๒๐๐๕ได้ทำให้สถานการณ์คริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์มีเสถียรภาพ เรื่องการร้องเรียนลดลง จนถึงปัจจุบัน มีผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์กว่า๘แสน๕หมื่น๗พันคนที่ประกอบศาสนกิจตามกฏหมายและทำให้การบริหารของรัฐมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้รับการรับรอง องค์กรคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์ต่างๆได้ประกอบศาสนกิจอย่างมีระเบียบ มีความผูกพันกับชาติและเนื่องจากความต้องการทางจิตใจได้รับการตอบสนอง ผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์ โดยเฉพาะ ชนกลุ่มน้อยในเขตเขาสูงทางภาคเหนือและเขตที่ราบสูงTây Nguyên จึงได้เข้าร่วมกิจกรรมสังคม การกุศลและกิจกรรมมนุษยธรรมอย่างแข็งขันและได้มีการประสานกับทางการปกครองท้องถิ่นในการต่อต้านกิจกรรมที่ใช้คริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์มาบังหน้าเพื่อบ่อนทำลายรัฐเวียดนามและมีส่วนร่วมรักษาความมั่นคงทางการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมในเชิงรุกอีกทั้งมีส่วนร่วมลบล้างประเพณีที่ล้าหลังและความเชื่อที่ส่งผลเสียต่อสังคม นายNguyễn Thanh Xuân รองประธานประจำคณะกรรมการศาสนาของรัฐบาลได้กล่าวว่า“สถานการณ์คริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอันมากเมื่อเทียบกับ๖ปีก่อน ผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์มีความปลื้มปิติยินดีและความสัมพันธ์ระหว่างผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์กับทางการปกครองก็ดีขึ้นซึ่งแสดงให้เห็นว่า นโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐเวียดนามที่มีต่อคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์ดีมาก มีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์เพื่อให้อิทธิพลจากภายนอกเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริงของเวียดนาม” มติที่01ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับงานด้านคริสต์ศาสนานิกายโปรแตสแตนท์และมติที่1940เกี่ยวกับที่พักอาศัยและที่ดินที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเป็นนโยบายที่สำคัญเพื่อแปรกฤษฎีกาเกี่ยวกับความเชื่อและการนับถือศาสนาที่ประกาศใช้เมื่อปี๒๐๐๔ให้เป็นรูปธรรม ท่านNguyễn XuânPhúcยังสั่งให้คณะกรรมการศาสนาของรัฐบาลประกาศเอกสารแนะนำการปฏิบัติกฤษฎีกาเกี่ยวกับความเชื่อและการนับถือศาสนาเพื่อมุ่งสู่การร่างกฏหมายเกี่ยวกับศาสนาซึ่งจะช่วยให้พลเมืองทุกคนมีสิทธิเสรีภาพทางศาสนาอย่างเสมอภาคในกรอบของรัฐที่ปกครองด้วยอำนาจ กฏหมาย./.
Hương Giang TTT