ประธานโฮจิมนิห์กับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ |
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในแนวคิดโฮจิมินห์คือแนวคิดวัฒนธรรมเพื่อสันติภาพ คุณค่าความเป็นมนุษย์ ความเมตตาและส่งเสริมสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติต่างๆ แนวคิดเหล่านี้ของประธานโฮจิมินห์สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ที่ลึกซึ้งและความคาดหวังของท่านที่ต้องการเห็นโลกที่มีสันติภาพ มีความเสมอภาคและความผาสุก ถึงแม้สถานการณ์ภายในประเทศและโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง แต่แนวคิดนี้ยังคงทรงคุณค่า สอดคล้องกับลักษณะการปฏิวัติเวียดนาม โดยเฉพาะในสภาวการณ์แห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในปัจจุบัน
คนทุกทวีปต่างเป็นพี่น้องกัน
เมื่อกว่า 70 ปีก่อน ในเดือนกันยายนปี 1949 ประธานโฮจิมินห์ได้ตอบสัมภาษณ์นักข่าวอเมริกัน Elie Massie ของสำนักข่าว International News Service เกี่ยวกับนโยบายด้านการต่างประเทศของเวียดนาม โดยยืนยันว่า เวียดนามเป็นเพื่อนกับทุกประเทศประชาธิปไตยและไม่เป็นศัตรูกับใคร ก่อนหน้านั้น เมื่อปี 1946 ท่านได้กล่าวถึงนโยบายที่เปิดกว้างและร่วมมือกับภายนอก เช่น “จีน-เวียดนาม เป็นมิตร” หรือ “ร่วมมือในทุกด้านกับสหรัฐ”
เมื่อปี 1923 สมัยที่ท่านยังเป็นหนุ่มและเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหาทางกู้ชาติ นักข่าวและกวีของสหภาพโซเวียด Osip Emilyevich Mandelstam ก็ได้กล่าวถึงประธานโฮจิมินห์ว่า “บุคลิกภาพของเหงียนอ๊ายก๊วกได้สะท้อนความมีวัฒนธรรมที่ไม่ใช่วัฒนธรรมยุโรป หากเป็นวัฒนธรรมของอนาคต ผ่านท่าทีอันสูงส่งและเสียงพูดที่อบอุ่นของเหงียนอ๊ายก๊วก ผมมองเห็นอนาคต รู้สึกถึงบรรยากาศแห่งความสงบสุขของสัมพันธไมตรีในโลกที่กว้างใหญ่”
สามารถเห็นได้ว่า แนวคิดเกี่ยวกับความสามัคคี การปรองดองชาติและการเป็นมิตรกับประเทศต่างๆของประธานโฮจิมินห์ถือเป็นแนวคิดที่นำหน้ายุคสมัยและยังคงมีคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน รองศาสตราจารย์ ดร. เหงียนจ่องฟุก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์ของพรรคยืนยันว่า “แนวคิดสันติภาพและมิตรภาพระหว่างประชาชาติที่ถือคนในทั่วทุกทวีปและมหาสมุทรต่างเป็นพี่น้องกัน” ที่ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวไว้เมื่อกว่า 70 ปีก่อนนั้นในปัจจุบันนี้ก็ยังคงทรงคุณค่าและมีความหมายพิเศษ ในขณะที่โลกยังคงมีความตึงเครียด การปะทะและปัญหาสำคัญๆที่ต้องการความร่วมมือของทุกประเทศเพื่อแก้ไข”
ประธานโฮจิมินห์กับประชาชน |
จุดประกายคุณค่าแนวคิดโฮจิมินห์
32 ปีก่อน ในเดือนพฤศจิกายนปี 1987 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNESCO ได้อนุมัติมติรำลึกครบรอบ 100 ปีวันคล้ายวันเกิดประธาน โฮจิมินห์ ในฐานะ “วีรชนปลดปล่อยประชาชาติและนักวัฒนธรรมโลกที่ยอดเยี่ยม” มติระบุว่า ประธานโฮจิมินห์เป็นหนึ่งในบุคคลที่ยอดเยี่ยมและได้สร้างนิมิตหมายในกระบวนการพัฒนาของมนุษย์จึงขอเรียกร้องให้ประเทศต่างๆยกย่องสดุดีประธานโฮจิมินห์ผ่านการจัดกิจกรรมรำลึกต่างๆ
สำหรับเวียดนาม นี่ถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจ โดยในหลายปีมานี้ การยกย่องสดุดีประธานโฮจิมินห์ได้บรรลุผลงานที่น่ายินดีและได้รับการปฏิบัติในหลายทวีป มีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์ เอกลักษณ์วัฒนธรรม ประเทศและคนเวียดนามที่เป็นมิตร ใฝ่สันติภาพ ให้ความเคารพประชาชาติที่แตกต่างกันและมีความรับผิดชอบต่อโลก รองศาสตราจารย์ ดร. เหงียนจ่องฟุก แสดงความเห็นว่า “ผ่านกิจกรรมนี้ บรรดาผู้นำ นักวิชาการ นักการเมืองและประชาชนในประเทศต่างๆมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับชีวิต ภารกิจการเคลื่อนไหวปฏิวัติของประธานโฮจิมินห์ ตลอดจนประเทศและคนเวียดนาม การยกย่องสดุดีประธานโฮจิมินห์ก็หมายความว่ายกย่องสดุดีประชาชาติ แนะนำประชาชาติเวียดนามต่อโลก”
ชีวิตของประธานโฮจิมินห์เป็นสัญลักษณ์อันสูงส่งและสวยงามที่สุดของลัทธิรักชาติและลัทธิวีรชนการปฏิวัติเวียดนาม ท่านเป็นศูนย์รวมแห่งคุณธรรม ความรู้ ความมุ่งมั่นและมโนธรรมของประชาชาติและยุคสมัย ในสภาวการณ์ที่ประเทศกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก คุณค่าที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับแนวคิดของประธานโฮจิมินห์ยังได้รับการจุดประกายและขยายผลอย่างกว้างขวางเพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมความภาคภูมิใจแห่งประชาชาติ ทำให้โลกมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์ มีวัฒนธรรมของประชาชาติที่เป็นเอกลักษณ์และใฝ่สันติภาพ/.