วันที่ 29 พฤศจิกายนปี 2005 กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นได้รับการอนุมัติในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 11 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนปี 2006 ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของพรรค รัฐและประชาชนเวียดนามในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะการป้องกันการคอร์รัปชั่นเป็นหนึ่งในเสาหลักที่มีบทบาทสำคัญในกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น กฎหมายเวียดนามมีข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับมาตรการการป้องกันที่กำลังประยุกต์ใช้ในประเทศต่างๆทั่วโลก

ในเวลาที่ผ่านมา การป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นของเวียดนามได้ประสบผลพอสมควรผ่านความร่วมมือของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์การ NGO องค์การทางสังคม สื่อมวลชนและประชาชน นางด่าวถิงา ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารขององค์การมุ่งสู่ความโปร่งใสได้ยืนยันถึงส่วนร่วมที่สำคัญของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและเห็นว่า ประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญในการค้นพบ ป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น “ประชาชนอาจแจ้งพฤติกรรมคอร์รัปชั่น ติดตามการเคลื่อนไหวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลให้สำนักงานภาครัฐต้องชี้แจงและมีส่วนร่วมต่อกการร่างนโยบายและเอกสารทางกฎหมายของรัฐ ประชาชนแต่ละคนยังปฏิบัติความซื่อสัตย์และรณรงค์ให้ญาติพี่น้องปฏิบัติตาม ซึ่งหมายความว่าได้มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นต่อการป้องกันการคอร์รัปชั่น”

ผู้นำพรรค รัฐและรัฐบาลเวียดนามต่างให้ความสำคัญและปฏิบัติมาตรการเพิ่มบทบาทและการเข้าร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น จนทำให้ประชาชนตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาท สิทธิผลประโยชน์และหน้าที่ของตนในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น นายหวิ่งฟองแจง  หัวหน้าสำนักงานตรวจการของรัฐบาลเผยว่า  “ต้องค้ำประกันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมาย เปิดช่องทางให้ประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมสามารถแสดงความคิดเห็นและความคิดริเริ่มที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น ปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมนั้นแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของประชาชนต่อพรรคและรัฐ ความเป็นเอกฉันท์ของทั้งระบบการเมืองเพื่อร่วมกันป้องกัน ปราบปราม ยับยั้งและแก้ไขปัญหาการคอร์รัปชั่นเพื่อการพัฒนาของประเทศ”

วันความคิดริเริ่มเวียดนาม 2009 หรือวีไอดีภายใต้หัวข้อ “เพิ่มความรับผิดชอบและความโปร่งใส เพื่อลดการคอร์รัปชั่น” เป็นโครงการแรกที่จัดโดยสำนักงานตรวจการของรัฐบาลและธนาคารโลกประจำเวียดนามเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เสนอข้อคิดริเริ่มเพื่อมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรมต่อการพัฒนาของท้องถิ่นและชุมชน พร้อมทั้งช่วยให้ความพยายามในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากนั้น ก็ได้มีการจัดโครงการความคิดริเริ่มหรือวีเอซีไอในปี 2011 2013 และ 2014 ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารโลก กระทรวงพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษและนักอุปถัมภ์ต่างๆโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งของชุมชนเพื่อแปรมาตรการแก้ไขและการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นในระดับพื้นฐานให้เป็นรูปธรรม จากแนวทางการเข้าถึงใหม่ การเข้าถึงจากระดับพื้นฐานและเน้นปฏิบัติมาตรการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากทั้งสังคม ได้แก่ยกระดับความรับผิดชอบ ความโปร่งใสและแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นในสังคามอย่างค่อยเป็นค่อยไป นายเหงียนหิวหลก รักษาการอธิบดีกรมความร่วมมือกับต่างประเทศสังกัดสำนักงานตรวจการของรัฐบาลเผยว่า  “วีไอดี 2009 และวีเอซีไอคือการขยายผลความคิดริเริ่มของชุมชน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นรูปรรม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้นและมีประสิทธิภาพของประชาชนและสังคมในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น”

หลังความสำเร็จของวีไอดี 2009 และวีเอซีไอ สำนักงานตรวจการของรัฐบาลได้ปฏิบัติโครงการ “ขยายผลความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นในเวียดนาม” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมการเข้าร่วมของประชาชนต่อการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและรักษาความยั่งยืนของผลสำเร็จต่างๆในกรอบโครงการ “ยกระดับทักษะความสามารถในการปฏิบัติอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นและบทบาทของภาคเอกชนในการช่วยเหลือการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่นของรัฐบาลเวียดนาม” หรือ AC – UNCAC ที่ได้รับการอุปถัมภ์จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ

การประชาสัมพันธ์เพื่อยกระดับความรู้ของประชาชนเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น ส่งเสริมให้พวกเขาเข้าร่วมอย่างกระตือรือร้นและเป็นฝ่ายรุกถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชั่น ดังนั้น จากการมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งของประชาชนผ่านการแสดงความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ต่างๆได้ช่วยให้การปฏิบัติงานของสำนักงานภาครัฐและทางการปกครองทุกระดับมีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบในการชี้แจงและกลไกการสนทนาที่ได้ดำเนินอย่างเปิดเผย สม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งสามารถแก้ไขและลงโทษกรณีความผิดต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมนำความโปร่งใสมาให้แก่สังคม./.