(VOVworld) – เมื่อพูดถึงมหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ทหารผ่านศึก นักวิชาการและนักวิจัยประวัติศาสตร์ของเวียดนามทุกคนต่างยืนยันว่า นี่คือผลสำเร็จของศิลปะการทหารเวียดนาม โดยเฉพาะการออกกำลังอย่างทันการณ์ การประสานงานอย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพระหว่างหน่วยทหารและกองกำลังต่างๆ โดยเฉพาะศิลปะแห่งสงครามประชาชนและแนวทางการสู้รบที่มีประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมในทุกด้าน
เปิดยุทธนาการโจมตีเข้าไซ่ง่อน
|
จากสถานการณ์ในภาคใต้เวียดนามหลังการลงนามข้อตกลงปารีสเมื่อปี 1973และการเตรียมกองกำลังต่างๆให้แก่การสู้รบครั้งใหญ่ที่ได้สุกงอม วันที่ 4 มีนาคมปี 1975 ทหารและประชาชนเวียดนามได้เปิดยุทธนการเตยเงวียน ซึ่งถือเป็นการเปิดยุทธนาการฤดูใบไม้ผลิปี 1975 และสามารถรบชนะอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยุทธนาการดังกล่าวกำลังมีขึ้น กรมการเมืองได้ประชุมเพื่อประเมินโอกาสและตัดสินใจว่า ต้องย่นระยะเวลาการปฏิบัติยุทธนาการให้สั้นลงโดยตั้งใจจะปลดปล่อยภาคใต้ให้ได้ก่อนฤดูฝนปี 1975
ใช้โอกาสแห่งยุทธศาสตร์
หลังยุทธนาการเตยเงวียน ยุทธนาการเว้ – ดานังในช่วงเดือนมีนาคมประสบชัยชนะ หน่วยทหาร กองกำลังและประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างตระหนักได้ดีถึงแนวทางการชี้นำของกรมการเมืองคือ “ใช้โอกาสแห่งยุทธศาสตร์ มีความกล้าหาญ รวดเร็วมากขึ้นและฉับพลันเพื่อให้ได้ชัยชนะอย่างแน่นอน” พลโทหวอวันต๊วน รองเสนาธิการใหญ่กองทัพเวียดนามเผยว่า “นี่คือการประเมินสถานการณ์อย่างทะลุปรุโปร่งและทันการณ์ของพรรค กรมการเมืองและกองบัญชาการทหารสูงสุด ดังนั้นโทรเลขด่วนของพลเอกหวอเงวียนย๊าปจึงระบุว่า “ต้องรวดเร็วและกล้าหาญยิ่งขึ้น” ซึ่งช่วยให้พวกเราตระหนักได้ดีว่า นี่คือโอกาสเพื่อปลดปล่อยภาคใต้เวียดนาม”
ขณะนั้น กองทัพและประชาชนเวียดนามมีความเข้มแข็งมาก ซึ่งมีทั้งหน่วยรบหลัก เหล่าทัพ ทหารท้องถิ่นและกองกำลังมวลชนเพื่อแปรความมุ่งมั่นให้เป็นการปฏิบัติ ระดมทหารทุกหน่วย การสนับสนุนจากแนวหลังภาคเหนือและการเตรียมพร้อมของแนวหน้าภาคใต้ให้แก่ชัยชนะ รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์เหงียนจ่องฟุ้ก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์พรรคย้ำว่า“การระดมพลังทุกแหล่งคือการโจมตีทางทหารกับการลุกขึ้นสู้ของประชาชน นี่คือเอกลักษณ์ของศิลปะสงครามประชาชนเวียดนาม ซึ่งสงครามในลักษณะนี้ได้สร้างพลังที่เข้มแข็งทั้งในด้านการเมือง การทหาร การต่อสู้ทางการทูต ทำการสู้รบพร้อมกับการเจรจา ระดมทั้งพลังอันเข้มแข็งของมวลชนและความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากภาคเหนือ”
ชาวไซ่ง่อนต้อนรับชัยชนะ
|
ศิลปะการระดมพลังทุกแหล่ง
ความปรารถนาอันแรงกล้าในสันติภาพ เอกราชและเอกภาพของทั้งประชาชาติได้สร้างพลังแห่งความสามัคคีชนในชาติของเวียดนามในการลุกขึ้นสู้ในฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ชัยชนะของยุทธนาการเดียนเบียนฟูกลางเวหาที่มีขึ้นเป็นเวลา 12 วันเมื่อปลายปี 1972 ทำให้สหรัฐต้องลงนามในข้อตกลงปารีสเมื่อต้นปี 1973 และถอนทหารออกจากภาคใต้เวียดนาม แนวหลังภาคเหนือได้ระดมทุกแหล่งพลังเพื่อสนับสนุนแนวหน้าภาคใต้ต่อไป แม้สหรัฐทิ้งระเบิดอย่างหนักแต่เส้นทางเจื่องเซินยังคงได้รับการเปิดขยายต่อไปเพื่อส่งทหาร น้ำมัน ยุทโธปกรณ์และการสนับสนุนทุกอย่างเพื่อเตรียมการสู้รบครั้งใหญ่ ประชาชาติเวียดนามประสบชัยชนะในทุกขั้นตอน ทุกยุทธศาสตร์และทุกสมรภูมิจนในที่สุดก็ประสบมหาชัยชนะฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพ ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ดิงเตี๊ยนหยุง ทหารผ่านศึกที่เข้าร่วมยุทธนาการปลดปล่อยภาคใต้เผยว่า “ศัตรูคิดว่า พวกเราไม่มีอะไรเหลือแล้ว ไม่เหลือกองกำลังเพื่อปลดปล่อยภาคใต้แต่พลังที่เข้มแข็งได้ปรากฎจากประชาชน รถถังกับรถหุ้มเกราะหลายร้อยคันและกองพลต่างๆจากเขตที่ราบสูงเตยเงวียน จากจังหวัดกว๋างจิ จากภาคใต้ซึ่งได้เคลื่อนพลในระยะเวลาสั้นๆเพื่อปลดปล่อยภาคใต้อย่างสมบูรณ์”
ในการโจมตีครั้งยิ่งใหญ่นั้น กองทัพประชาชนเวียดนามได้รับความช่วยเหลือจากประชาชน และเยาวชนอาสา การโจมตีอย่างรวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลปของกองกำลังแนวหน้าได้สนับสนุนการลุกขึ้นสู้ของประชาชน ซึ่งช่วยทำลายศัตรูและการยึดอำนาจประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
การโจมตีและลุกขึ้นสู้ฤดูใบไม้ผลิปี 1975 มีขึ้นเป็นเวลา 55 วันและคืนถือว่ารวดเร็วเป็นอย่างมาก โดยมีความหมายที่ยิ่งใหญ่ทั้งในด้านการทหาร การเมือง บรรยากาศและกองกำลังจนสามารถประสบชัยชนะในเวลาสั้นและเกิดความเสียหายน้อยที่สุด ทั้งนี้และทั้งนั้นได้แสดงให้เห็นถึงความปรีชาสามารถและศิลปะการชี้นำยุทธศาสตร์ที่โดดเด่นของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม โดยเฉพาะในการสร้างสรรค์กองกำลัง การวางแผนการรบ การสร้างและใช้โอกาสด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่เพื่อรบชนะในที่สุด./.