(VOVworld) – วันที่ 16 มกราคม นาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพร้อมภริยาเริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่กว้างลึกเวียดนาม-ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็ง รอบด้านและจริงจังภายหลัง 44 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เนื้อหาหลักของการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ คือขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน เพื่อผลักดันความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นอย่างเข้มแข็ง รอบด้านและจริงจัง

เวียดนามและญี่ปุ่นสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1973 ในหลายปีมานี้ ผู้นำทั้งสองประเทศได้พบปะหารือเป็นประจำ ซึ่งสร้างโอกาสความร่วมมือทวิภาคีในหลายด้าน การเยือนเวียดนามของนาย ชินโซ อาเบะ ในระหว่างวันที่ 16-17 มกราคมเป็นการยืนยันอีกครั้งถึงการพัฒนาของความสัมพันธ์นี้
พื้นฐานของผลประโยชน์ที่มั่นคง
ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นกำลังอยู่ในระยะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยมีความไว้วางใจกันในระดับสูงและบรรลุกรอบหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่กว้างลึกเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชีย ผู้นำทั้งสองประเทศได้ธำรงการเยือนและการพบปะในฟอรั่มทั้งในระดับภูมิภาคและโลก โดยเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 ในโอกาสการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง ทั้งสองประเทศได้ลงนาม “แถลงการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่น” ล่าสุด นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่นและเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ จี 7 ขยายวงเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016
หนึ่งในเสาหลักของความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นคือความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากมีชายฝั่งทะเลทอดยาวและได้รับผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจจากทะเลมากมาย ทั้งสองประเทศจึงมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านนี้ เพื่อกระชับและขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆ ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจชั้นนำของเวียดนามและเป็นประเทศจี 7 ประเทศแรกที่รับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนาม เป็นนักอุปถัมภ์เงินโอดีเออย่างเป็นทางการมากที่สุด เป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 2 และเป็นหุ้นส่วนการค้าทวิภาคีรายใหญ่อันดับที่ 4 ของเวียดนาม ทั้งสองประเทศยังมีกลไกร่วมมือด้านเศรษฐกิจซึ่งสร้างพื้นฐานเพื่อให้การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 13.9 ในหลายปีมานี้ ปัจจุบัน ญี่ปุ่นกำลังให้การช่วยเหลือเวียดนามอย่างเข้มแข็งในการพัฒนาอุตสาหกรรมในกรอบความร่วมมือเวียดนาม-ญี่ปุ่นจนถึงปี 2020 และวิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 นอกจากเสาหลักด้านเศรษฐกิจแล้ว ความสัมพันธ์เวียดนาม-ญี่ปุ่นยังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การศึกษา ไปจนถึงการเกษตร การท่องเที่ยว แรงงาน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความร่วมมือระหว่างท้องถิ่นต่างๆ ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือเป็นอย่างดีในองค์การและฟอรั่มพหุภาคี เช่นสหประชาชาติ อาเซียน เอเปก อาเซมและสภาสิทธิมนุษยชน
เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความไร้เสถียรภาพเนื่องจากมีความหลากหลายทางการเมืองและผลประโยชน์ของประเทศต่างๆ ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นและเวียดนามแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้โดยง่ายและมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้านเกี่ยวกับผลประโยชน์ ญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือเวียดนามมากมายในการยกระดับความสามารถในการลาดตระเวน การปกป้องตนเองและการรักษาความมั่นคงทางทะเล
ก้าวเดินเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่จำเป็น
การเยือนของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่กว้างลึกเวียดนาม-ญี่ปุ่นได้รับการเสริมสร้างและพัฒนาอย่างเข้มแข็ง รอบด้านและจริงจังต่อไป อีกทั้งเป็นการยืนยันถึงน้ำใจและความกระตือรือร้นของนายกรัฐมนตรี ชินโซอาเบะ ในการผลักดันสัมพันธไมตรีเวียดนาม-ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้เดินทางมาเยือนเวียดนาม 2 ครั้งเมื่อปี 2006 และ 2013 ซึ่งถึงแม้เป็นการเยือนในเวลาอันสั้น แต่สมาชิกของคณะคือผู้นำและบริหารของกลุ่มบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นในด้านการค้า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษา พร้อมผู้บริหารของท้องถิ่นต่างๆของญี่ปุ่นโดยมีความประสงค์ที่จะศึกษาโอกาสการลงทุนในเวียดนาม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นพร้อมสมาชิกของคณะจะร่วมกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม สมาชิกรัฐบาล ผู้บริหารของท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามรับฟังความคิดเห็นและหารือเพื่ออำนวยความสะดวกให้ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายเข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเยือนเวียดนามครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่กว้างลึกของทั้งสองประเทศ และเป็นการยืนยันว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญและยาวนานของญี่ปุ่น มีความประสงค์ที่จะผลักดันความไว้วางใจทางการเมืองและผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามในหลายด้าน ในตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางด้วยความผันผวนและเหตุการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศ แต่สัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศยังคงผลิดอกออกผลและพัฒนาอย่างดีงาม.